เมื่อเวลา 00.30 น. สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในรถยนต์ ที่บริเวณจุดตรวจถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้เคียงร้านอาหาร ป.รัตนาธิเบศร์ หมู่ 8 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจได้ขับรถคันเกิดเหตุนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.พระนั่งเกล้า และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงได้ประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรุดตรวจสอบ
Category Archives: TopNews
ขนส่งเรียกแท็กซี่ แจกกล้วยผดส.ฝรั่ง อ้างสื่อสารไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้เมา (คลิป)
ตามที่มีการแชร์คลิปในสังคมโซเชียลผ่านสื่อออนไลน์ กรณีผู้ขับรถแท็กซี่เมาและแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ นั้น (อ่าน : แชร์ว่อน! คลิปฝรั่งถ่ายแฉโชเฟอร์แท็กซี่ อ้างเมา-แจกกล้วย)
วันนี้ (2 ส.ค.59) กองตรวจการขนส่งทางบก ได้เรียกตัวผู้ขับรถคันดังกล่าวคือ นายโกสินทร์ ชาติพหล อายุ 51 ปี มาสอบสวนแล้ว ปรากฎผลดังนี้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 59 เวลาประมาณ 02.00 น. พขร. ได้รับผู้โดยสารชาวต่างชาติ จากถนนศรีนครินทร์ เพื่อไป ห้วยขวาง และในเวลาดังกล่าวรถน้อยถนนโล่ง พขร.จึงขับรถด้วยความเร็วประมาณ 70 กม./ชม. และได้มีรถจักยานยนต์ (บิ๊กไบก์) แซงทางด้านซ้าย พขร. จึงได้หักหลบให้ ซึ่งผู้โดยสารเข้าใจว่า พขร .เมาและขับรถประมาท ซึ่ง พขร. ไม่มีความรู้ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ แต่ได้ยินคำว่า STOP จากผู้โดยสาร พขร. จึงได้จอดรถส่งผู้โดยสารลง พขร.จึงเรียกเก็บค่าโดยสาร แต่ผู้โดยสารไม่ยอมจ่ายคิดว่าเป็นความผิดเกิดจาก พขร. จึงได้โต้เถียงกัน ขึ้น และ พขร.ได้ยกมือขึ้นและพูดว่า โอ.เค. ไม่จ่ายก็ไม่จ่าย แล้วขับรถไปทันที
ทั้งนี้ พขร.ยืนยันว่าในวันดังกล่าวไม่ได้เมาและไม่ได้แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพต่อผู้โดยสารแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า ได้มีการแสดงอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมจริง และได้ขับรถที่ยังมิได้จดทะเบียน ในการนี้ กองตรวจการขนส่งทางบก จึงได้เปรียบเทียบปรับข้อหาใช้รถมิได้จดทะเบียนเป็นเงิน 2,000 บาท พร้อมส่งเข้ารับการอบรมเรื่องมารยาทในการให้บริการเป็นเวลา 3 ชั่วโมงและบันทึกประวัติการกระทำความผิดไว้ติดตามตัวต่อไป
ขอบคุณแหล่งข่าวจาก:http://www.khaosod.co.th/
แม่ใจสลายโพสต์ภาพคู่สุดท้ายก่อน “น้องน้ำ” ลูกรักจมสระน้ำร.ร.ดังเชียงรายดับ
เมื่อวันที่ 2 สค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบอาจารย์จันทร์ฉาย ไทยรัตน์ ผู้จัดการโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม เขตเทศบาลนครเชียงราย เพื่อสอบถามกรณีเด็กนักเรียนชั้นป.2 เสียชีวิต ขณะเรียนวิชาว่ายน้ำในโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยในสื่ออนไลน์ได้แชร์ภาพและเรื่องราวกันมากมาย มีการวิพากวิจารณ์เหตุการที่เกิดขึ้นอย่างมาก
อาจารย์จัทนร์ฉาย ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า ทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก เหตุการณ์ดังกล่าวถึง 2 ชุด โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น. นางสายทอง ดอกเกรียง ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 นำเด็กนักเรียนจำนวน 27 คน มาส่งให้กับ นายไมตรี โพธิ์เลิศ อายุ 50 ปี ครูสอนวิชาพละศึกษาว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำของโรงเรียน โดยมีเด็กเพียง 5 คนที่ไม่เรียนว่ายน้ำ ได้กลับขึ้นไปเล่นอยู่ในห้องเรียนประจำชั้น โดยครูไมตรีเริ่มสอนวิชาว่ายน้ำเบื้องต้นตามปกติ โดยมีการอบอุ่นร่างกาย และนำเด็กลงสระว่ายน้ำ สอนการตีขา อยู่ขอบสระ โดยใช้เวลาลงสระ ประมาณ 20-30 นาที
จากนั้นได้เรียกเด็กทุกคนขึ้นจากสระ เพื่อมาอาบน้ำเตรียมขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนนั้นนับจำนวนเด็กครบ 27 คนแล้วปล่อยเดินแถวขึ้นห้องเรียน จากนั้นนายไมตรีเข้าอาบน้ำชำระร่างกาย โดยใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที ได้รับการติดต่อลงมาจากครูสายทองว่า เด็กไม่ครบจำนวน ช่วยไปตรวจสอบบริเวณโดยรอบสระว่ายน้ำอีกรอบ จึงรีบออกไปดูพบร่างน้องน้ำ ด.ญ.อรปรียา คีรีแก้ว อายุ 7 ขวบ จมอยู่ริมสระในชุดว่ายน้ำสีฟ้า ครูไมตรีได้รีบช่วยขึ้นจากสระ และเรียกครูใกล้เคียงมาช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งเด็กยังมีชีพจรอยู่ จากนั้นทางโรงเรียนรีบประสานรถพยาบาลของโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คที่ใกล้เคียงที่สุดมารีบตัวเด็ก ไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งทางแพย์และพยาบาลช่วยเหลือเด็กอย่างเต็มที่ จนเวลาประมาณ 20.00 น. น้องน้ำก็เสียชีวิตลง ท่ามกลางความเสียใจของ ผู้ปกครอง และครูที่ติดตามข่าวเอาใจช่วยอยู่หลายคน ได้มีการลงบันทึกประจำวันใว้ที่ สภ.เมืองเชียงรายแล้ว
ล่าสุดทางโรงเรียนโดยทางผู้จัดการได้แสดงความรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยติดต่อขอเข้าพบผู้ปกครองของน้องน้ำ รวมทั้งญาติ ซึ่งอธิบายชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางโรงเรียนจะช่วยเหลือเงินจากประกันชีวิตหมู่เบื้องต้น 5 หมื่นบาท และจะเร่งหาเงินจากสภาคริสจักรมาช่วยเยียวยาครอบครัวของน้องน้ำต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางโรงเรียนพาผู้สื่อข่าวไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ บริเวณสระว่ายน้ำภายในโรงเรียน โดยมีการล็อคกุญแจประตูทางเข้าทุกครั้ง หลังจากมีการเรียนการสอนวิชาว่ายนำเสร็จ โดยทางโรงเรียนยอมรับว่าขาดบุคลากร แม่บ้าน ที่ต้องคอยสลับมาวนเวียนดูแลสระว่ายน้ำ ไม่มีคนควบคุมตลอดทั้งวัน และยังไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ทางโรงเรียนรอผลการตรวจสอบจากการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่ มีการสอบถามเพื่อนนักเรียนและสอบถามครูที่รับผิดชอบ ถึงสาเหตุการจมน้ำเสียชีวิตของน้องน้ำ
ในเย็นวันนี้ทางคณะผู้บริการโรงเรียน ก็จะเข้าไปร่วมพิธีศพของน้องน้ำ ที่บ้านในอ.เวียงชัย โดยทราบว่าทางผู้ปกครองของเด็กที่เสียชีวิต ยังไม่พร้อมที่จะพูดคุย เพราะอยู่ระหว่างโศกเศ้ราเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ แม่ของน้องน้ำได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพของน้องน้ำถ่ายคู่กับแม่ พร้อมข้อความ “ไม่คิดเลยว่าภาพนี้จะเป็นภาพสุดท้าย ลูกรักเกิดมาเป็นลูกแม่อีกนะ แม่รักสุดหัวใจ รักตลอดไปตลอดกาล”
อาจารย์จันทร์ฉาย กล่าวว่า ประเด็นการสืบข้อเท็จจริง ของสาเหตุการเสียชีวิตระหว่างทีการเรียนว่ายน้ำในโรงเรียนนั้น ตั้งเป้าจุดที่ว่า หาความผิดพลาดอยู่ 2 เรื่อง คือความผิดพลาดของครูผู้สอน ที่นับจำนวนเด็กพลาดหรือไม่ เวลาขึ้นจากสระว่ายน้ำตอนเลิกเรียน กับอักประเด็น คือระหว่างการเดินขึ้นไปเปลี่ยนชุดในชั้นเรียนนั้น เด็กหญิงน้ำแตกแถวออกมา เพื่อกลับมาเอาของที่สระว่ายน้ำลำพัง จนพลาดตกลงไปในจุดน้ำลึก โดยไม่ทันมีใครเห็น เพราะช่วงเวลาที่ส่งเด็กเดินขึ้นห้องเรียนที่ชั้น 3 อาคารติดกับสระว่ายน้ำ ก็ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที โดยต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการโรงเรียน ซึ่งจะมีพนักงานสอบสวนจาก สภ.เมืองเชียงราย มาร่วมสอบสวนด้วย
ทั้งนี้ ฝ่ายสำนักงานสาธารณะสุขเชียงราย เตรียมส่งคณะกรรมการเข้ามาร่วมสอบ เนื่องจากเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิต เป็นเป้าหมายหลักของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการลดการเกิดเหตุ เด็กจมน้ำเสียชีวิต เพราะสถิติเด็กจมน้ำเสียชีวิต โดยรวมของประเทศค่อนข้างสูงในแต่ละปี ยิ่งเกิดในสถานศึกษาต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพื่อหาแนวทางป้องกันต่อไป
ขอบคุณแหล่งข่าวจาก:http://www.khaosod.co.th/
สป.ทส.ร่วมป่าไม้จังหวัดเชียงรายตรวจยึดไม้ประดู่ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท อ.แม่สาย
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 59 เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ สป.ทส.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป่าไม้จังหวัดเชียงราย ชุดปฏิบัติการเฝ้าตรวจชายแดน ( ต.ช.ด327 แม่สาย ) ทหาร ฉก.ม.2 สืบสวนแม่สาย อส.แม่สาย ได้สนธิกำลังเข้าตรวจยึดไม้เนื้อแข็ง (ไม้ประดู่ ลฯ) หนาประมาณ 4-5 นิ้ว ยาวประมาณ 5-6 ศอก จำนวน 60 – 70 แผ่น มูลค่าไม้ที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ ประมาณกว่า 2 ล้านบาท