ลูกซองถล่มพรุน-สาวเจ้าของสวนยาง ที่นครศรี ตร.ตั้งปม รับจำนำ รถ”จยย.”

ลูกซองถล่ม สาวพรุน ดับสยองคาสวนยาง เมืองคอน ปมรับจำนำรถสามีระบุ เมียเป็นเจ้าของสวนและรับจำนำจยย.จากคนในหมู่บ้าน ก่อนตายเคยบอกมีปัญหากับเจ้าของรถรายหนึ่ง ที่ถึงกำหนดไถ่ถอนแล้วเบี้ยว อีกทั้งไม่จ่ายดอกเบี้ย เลยเอารถไปขายให้คนอื่นในราคาถูกๆ โดยไม่บอกเจ้าของรถ ทำให้ถูกขู่อาฆาตเอาชีวิต จนกระทั่งมาถูกยิงตายจริงๆ ด้านตร.ระบุ พอรู้ตัวมือปืนแล้วเป็นใคร อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 31 ก.ค. พ.ต.ท. วรดิษฐ์ ลีวังศรี สารวัตร (สอบสวน) สภ. นาบอน จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงหญิงสาวเสียชีวิตภายในสวนยางพารา หมู่ 10 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช จึงประสานแพทย์เวร ร.พ.นาบอน ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน พฐ.จว.นครศรีธรรมราช ร่วมรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรยุทธ สันติวิสัฏฐ์ ผกก.สภ.นาบอน พ.ต.ท.ไชยยันต์ รัตนพงษ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุจินต์ รัตนพันธ์ สวป. และมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์
ที่ เกิดเหตุภายในสวนยางพบศพนาง กนกกาญจน์ จันทร์เลื่อน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 10 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงขายาวสีแดง สวมรองเท้าบู๊ตสีเขียว นอนตะแคงคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ใต้ต้นยาง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าลำตัวและใบหน้ากว่า 20 รู โดยมีปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่ 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 
จาก การสอบสวนสามีผู้ตาย ให้การว่าภรรยามีอาชีพกรีดยางและเป็นเจ้าของสวนยางแห่งนี้ ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมภรรยาออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดมากรีดยาง โดยแยกย้ายกันกรีดยางคนละแนวแต่ไม่ไกลกันนัก ต่อมาขณะกรีดยางอยู่นั้นได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด รู้ได้ทันทีว่าต้องมีคนบุกมายิงภรรยาแน่ๆ จึงวิ่งหลบหนีออกจากสวนไปบอกญาติพี่น้องและแจ้งตำรวจ ก่อนพากันกลับเข้ามาในสวนก็พบว่าภรรยาถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว

 
ด้าน พ.ต.อ.ธีรยุทธ เปิดเผยว่า คนร้ายน่าจะมีคนเดียวมาซุ่มอยู่ในที่มืดเมื่อสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนลูกซอง ยาว 5 นัดยิงใส่ผู้ตายถึง 4 นัดซ้อนจนนางกนกกาญจน์เสียชีวิตคาที่ ส่วนสาเหตุสอบสวนเบื้องต้นพบว่ามาจากเรื่องความโกรธแค้นส่วนตัว เพราะนอกจากผู้ตายจะทำสวนยางพาราแล้ว ยังรับจำนำรถจักรยานยนต์คนในหมู่บ้านด้วย โดยมีเพื่อนบ้านรายหนึ่งนำรถมาจำนำพอครบกำหนดแล้วไม่ยอมมาไถ่ถอนอีกทั้งไม่ ยอมจ่ายดอกเบี้ย ผู้ตายจึงตามไปทวงถามและทวงค่าดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ แต่เจ้าของรถไม่ยอมจ่ายแล้วเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันหลายครั้ง จากนั้นผู้ตายได้เอารถไปขายให้คนอื่นในราคาถูกโดยไม่ได้บอกเจ้าของรถ ที่ได้เตรียมเงินมาไถ่ถอนแล้วแต่ปรากฏว่ารถถูกขายไปแล้ว และยังไม่สามารถตกลงราคารถที่ขายไปเพื่อนำมาคืนเจ้าของได้ ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นขู่อาฆาตเอาชีวิตกันไว้ กระทั่งมาถูกยิงเสียชีวิต

 
พ.ต.อ.ธีรยุทธกล่าวต่อว่าขณะนี้ ตำรวจพอจะทราบแล้วว่าคนร้ายรายนี้เป็นใคร เนื่องจากผู้ตายเคยเล่าเรื่องที่มีปัญหากับลูกค้ารายนี้ให้ญาติและสามีทราบ และเคยบอกว่าจะถูกปองร้ายกระทั่งมาโดนยิงเสียชีวิต ซึ่งตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนส่งศพผู้ตายไปชันสูตรอย่างละเอียด จากนั้นจะได้มอบศพให้กับญาตินำไปประกอบพิธีต่อไป

ข่าวและภาพจาก: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1470018080

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *