“สาวทอม”ควงกิ๊กหนุ่มวัย 15 ฆ่า”ดี้สาว”แล้วจับศพแขวนคอ แถมสวมรอยโพสต์FBผู้ตายอำพราง

“สาวทอม”ควงกิ๊กหนุ่มวัย 15 ฆ่า”ดี้สาว”แล้วจับศพแขวนคอ แถมสวมรอยโพสต์FBผู้ตายอำพราง12-1

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 กรกฎาคม ที่สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.บุญธรรม วรรณรัตน์ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล รองผบก.ประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผกก.สภ.หัวหิน แถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมอำพรางศพด้วยการผูกคอในหอพักแห่งหนึ่งชุมชนตาลเดี่ยว อ.หัวหิน

12-2

โดยผู้ต้องหามี 2 คน ได้แก่ น.ส.กชกร หรือบัว ชาวชัยนาท อายุ 19 ปี ชาวนครปฐม อีกรายเป็นเยาวชน ชื่อนายต้าร์ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ชาวจ.นครปฐม เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรมน.ส.โสดาพันธ์ หรือแก้ว คำศิลป์ อายุ 36 ปี ชาวเพชรบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ท่ามกลางญาตของผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่มายืนดูการแถลงข่าวด้วยน้ำตานองหน้า12-3

พ.ต.อ.สิทธิชัยกล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนผูกคอตายภายในหอพักเมื่อเวลา 16.40 น.ของวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้ดูแลหอพักเป็นผู้เปิดประตูห้องพักของน.ส.แก้วผู้เสียชีวิต หลังจากที่คนสวนพบกุญแจห้องตกอยู่ที่สวนของหอพัก เมื่อโทรศัพท์ไปหาเจ้าของห้องพักไม่มีคนรับสาย จึงได้นำกุญแจไปเปิดห้อง ก็พบว่าน.ส.แก้วได้เสียชีวิตในสภาพใช้ผ้าปูที่นอนผูกคอกับราวภายในห้องน้ำ12-4

ทั้งนี้ผู้ดูแลหอพักให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้วยว่า พบเหตุผู้ตายครั้งสุดท้ายในช่วงกลางคืน ขณะเดินขึ้นหอพักพร้อมกับน.ส.บัว และนายต้าร์ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบพิรุธหลายอย่าง ทั้งการเดินเข้าออกห้องพักผู้เสียชีวิตหลายครั้ง มีการสูบบุหรี่ด้วยเสียหน้าเคร่งเครียด และขณะเดินออกจากหอพักโดยที่ไม่มีผู้ตายเดินออกมาด้วย จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาสอบสวน ขณะกำลังกบดานที่จ.นครปฐม ก่อนที่จะยอมรับสารภาพในที่สุด12-5

น.ส.บัวสารภาพว่า ตนและน.ส.แก้วคบหาในฐานะแฟนมาได้ประมาณ 1 ปี ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้มีใคร คบกับผู้ตายเพียงคนเดียวและผู้ตายเป็นคนมาจีบตนก่อน ตนไม่เคยหลอกว่าเป็นทอม ส่วนแฟนใหม่ที่เป็นผู้ชายนั้น ตนเพิ่งมาคบหลังบอกเลิกกับผู้ตายได้ไม่นาน โดยในวันเกิดเหตุตนตั้งใจมาเคลียร์ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ตาย โดยพาแฟนใหม่มาด้วยเพื่อยืนยันว่ามีคนใหม่แล้วเพราะกลัวผู้ตายไม่เชื่อ ไม่ได้ตั้งใจมาฆ่า

รวมทั้งต้องการเคลียร์ปัญหาหนี้สินที่ตนหยิบยืมจากผู้ตายกว่า 7 หมื่นบาทไปใช้รักษาตัวเพราะไม่สบายด้วย โดยจะผ่อนชำระให้เป็นงวดๆละ 10,000 ถึง 15,000 บาท ตนไม่ได้จะมาขอเงินอีกเพราะเลิกกันแล้ว แต่ระหว่างเจรจา เกิดทะเลาะมีปากเสียงกัน และตนเกิดโมโหที่ผู้ตายขึ้นเสียงใส่ตน ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบใช้หมอนปิดหน้าผู้ตายบนเตียงนอน แล้วแฟนใหม่ก็มาช่วยจับขาผู้ตายไว้ จนผู้ตายแน่นิ่งไป

“จากนั้นฟนูพยายามจะปลุกพี่แก้วแล้ว แต่ไม่ตื่นขึ้นมา ทำให้คิดว่าเสียชีวิตแล้ว หนูกับแฟนใหม่จึงใช้ผ้าปูที่นอน มาผูกกับราวในห้องน้ำแล้วอุ้มร่างของผู้ตายมาแขวนไว้ ทำทีว่าผูกคอตายเอง แล้วรีบออกจากหอพัก โดยทิ้งกุญแจห้องไว้ที่สวน ก่อนออกมาเรียกรถรับแจ้งหน้าหอพัก ให้พาไปส่งที่ห้องพักแห่งหนึ่งในอ.หัวหิน โดยที่หนูได้หยิบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายติดมือมาด้วย เพื่อจะลบข้อมูลที่มีการติดต่อกันระหว่างหนูกับผู้ตาย แต่เพราะหนูไม่มีเงินติดตัว จึงได้ให้โทรศัพท์มือถือของผู้ตายเป็นค่ารถไป จากนั้นตอนเช้าได้รีบหนีขึ้นรถไฟไปกบดานที่บ้านพักใน จ.นครปฐม ก่อนถูกตำรวจตามจับได้ในที่สุด”น.ส.บัวให้การ

ด้านญาตของผู้ตายให้ข้อมูลด้วยว่า ผู้ตายเป็นคนดีชอบทำบุญมาก ต้องเลี้ยงลูก 1 คน แต่เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ตนเห็นผู้ตายรับโทรศัพท์ของน.ส.บัว แต่มีปากเสียงทะเลาะกันตลอดเวลา โดยในช่วงดึกของคืนเกิดเหตุ พบว่าเฟซบุ๊คของผู้ตายมีการโพสต์ภาพคล้ายกับว่าผู้ตายโพสต์เอง ซึ่งไม่ใช่ แต่เป็นฝีมือของผู้ต้องหาที่ต้องการอำพรางคดี

นอกจากนี้ญาติไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะแค่ใช้หมอนปิดหน้าจนเสียชีวิต เพราะสภาพศพมีร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างหนักทั้งตามร่างกายที่เขียวช้ำและที่ใบหน้า คล้ายการถูกจับหน้ากระแทกพื้น ทำให้ญาตไม่เชื่อตั้งแต่แรกว่าจะผูกคอตายเองและเชื่อว่าถูกฆาตกรรม โดยขณะนี้ยังไม่ได้เผาศพ ต้องการเก็บไว้เพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม อยากให้ผู้ต้องหาได้รับผลกรรมที่ทำไว้กับผู้ตาย

ที่มา khaosod

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก TLC  http://news.tlcthai.com/news/736401.html

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *