เชือดสิงห์ให้ลิงดู เอาอย่างไรดีประเทศไทย ได้สถานะต่างด้าวแล้ว อาจได้โอนสัญชาติ แต่หารู้ไม่อาจถือสองสัญชาติ เสี่ยงความมั่นคง
ส่องเชียงราย 2 เอาอย่างไรประเทศไทย ได้สถานะต่างด้าวแล้ว รอมติ ครม.เคาะ อาจได้โอนสัญชาติ แต่หารู้ไม่อาจถือสองสัญชาติ เสี่ยงความมั่นคง ผิดตั้งแต่เรียก ออกลูกออกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองละทีนี้..
จากสถานการณ์ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีการสวมสิทธิ์สถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย ในพื้นที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เป็นข่าวโด่งดังอื้อฉาวไปทั่วประเทศ กรณีออกหมายจับ 30 ราย เครือข่ายสวมสิทธิ์ต่างด้าว – และสัญชาติ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง – ผู้สนับสนุน โดนคดีกันระเนระนาดไม่รู้ผู้ตกเป็นผู้ต้องหาจะชัดทอดไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงกันอีกหลายราย หรืออาจยอมตายเองปิดปากไม่ชัดถึงนาย…. ก็เป็นไปได้ เพราะระบบกฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา ที่กลุ่มเครือข่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เรียกรับผลประโยชน์ทำผิดกฎหมายในคดีอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือกลุ่มนายหน้าเป็นผู้ร่วมสนับสนุน ในการกระทำความผิด ตามหลักฐานของเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในวงราชการ ( ป.ป.ป. ) และเจ้าหน้าที่ ฯลฯ ออกหมายจับดำเนินคดีอาญา งานนี้อาจเชือดสิงห์ให้ลิงดู เพื่อป้องกันปัญหาความมั่นคง-อาญากรรม ของจังหวัดชายแดน ที่มีขบวนการกันมายืดเยื้อมายาวนาน ปัญญาชนที่รู้ความจริงคงไม่ปฏิเสธว่ามีจริง กลุ่มชาติพันธุ์ของปนะเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่า จีนเทา ว้า พม่า ลาว และอาจมีโรฮิงญา อาจเข้ามาสวมสิทธิ์ตั้งแต่เรียกเริ่มทำบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางเบียน หรือที่เรียกว่า บัตรหัว 0 และ 0-89 กันมาหลายปี ( ที่เรียกว่าประชากรแฝง ) และกลุ่มที่ยื่นขอสถานะต่างด้าวถาวร – และโอนสัญชาติ – มีแค่ชื่ออยู่ในทะเบียนของคนไทย แต่ตัวตนไม่ได้อยู่ในประเทศไทยจริง.. ตัวตนจริงอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ( มีคำถามว่ากลุ่มคนเหล่านี้ อาจมีประวัติ หรือลายนิ้วมือจริงในทะเบียนราษฎร ก็อาจสวมสิทธิ์มาตั้งแต่เรียกก็เป็นไปได้ ) และหลังจากนั้นอาจมีสิทธิ์ยื่นของสถานะต่างด้าวถาวร ตามมติ ครม. คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่จังหวัดชายแดนก็มีหน่วยงานข่าวกรอง – หน่วยงานความมั่นคง จึงตั้งข้อสงสัยสมมติฐานว่าไม่มีการรายงานภัยความมั่นคงเลยหรือ หรือว่ารายงานไปแล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงระดับในประเทศไม่สนใจ กรณีเหตุเสี่ยงความมั่นคงของชาติ จนบานปลายให้เครือข่าย แก๊งจีนเทา – เข้ามาลงทุนผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นแก๊งสแกมเมอร์ – และหลอกลวงในโลกโซเซียลต่างๆ นาๆ ก่อเกิดอาญากรรมในจังหวัดตามแนวชายแดน และแก๊งจีนเทาเหล่านี้จะใช้ ฟรีวีซ่า (Visa Exemption): สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน สามารถพำนักในประเทศไทยได้ไม่เกิน 30-60วัน แล้วแต่วีซ่า ( การแจ้งที่พักอาศัย ( ตม.30 ) ต่อครั้ง ในการที่คนจีนจะสามารถพำนักอยู่ในประเทศไทยได้กี่เดือนนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของวีซ่าที่ได้รับอนุญาต และการแจ้งเข้าทะเบียนบ้าน การมีชื่อในทะเบียนบ้านไทย (ทร.13 ) ต้องมีเจ้าบ้านรองรับ นายทะเบียนรองรับ เป็นเพียงการลงบันทึกที่อยู่ตามกฎหมายทะเบียนราษฎรเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นการให้สิทธิ์พำนักระยะยาวหรือสัญชาติโดยอัตโนมัติแต่อย่างใด แต่ก็เป็นวิธีที่แก๊งจีนเทาใช้กันมาโดยตลอด โดยวีซ่าท่องเที่ยวจะต้องไปรายงานตัวแจ้งที่พักอาศัยต่อสำนักงาน ตม. ทุกๆ 90 วัน ไม่ว่าจะมีชื่อในทะเบียนบ้านหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น จำนวนเดือนที่สามารถอยู่ในไทยได้ขึ้นอยู่กับชนิดของวีซ่าที่ได้รับ ซึ่งอาจมีตั้งแต่ 2 เดือน ไปจนถึง 1 ปี (และต่ออายุได้) โดยการเข้าทะเบียนบ้านเป็นเพียงการปฏิบัติตามกฎหมายทะเบียนราษฎรเท่านั้น ที่ถือว่ามีช่องว่างทำให้แก๊งจีนเทาสามารถเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยได้ตามกฎหมาย… หรือใช้วีซ่าประเภทอื่นฯลฯ….



จึงมีคำถามตั้งข้อสงสัยสมมติฐานของสังคมว่าล่อแหลมเสี่ยงความมั่นคงพื้นที่ชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ ของกลุ่มจีนเทา ไม่ว่า ว้า พม่า ลาว และอาจมีโรฮิงญา อาจเข้ามาสวมสิทธิ์ตั้งแต่เรียกเริ่มทำบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางเบียน หรือที่เรียกว่า บัตรหัว 0 และ 0-89 กันมาหลายปี ( ที่เรียกว่าประชากรแฝง ) และกลุ่มที่ยื่นขอสถานะต่างด้าวถาวร – และโอนสัญชาติ – มีแค่ชื่ออยู่ในทะเบียนของคนไทย แต่ตัวตนไม่ได้อยู่ในประเทศไทยจริง.. ตัวตนจริงอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
ภาพบ้างภาพจาก – กรมการปกครอง
ณฐพัชร์ อภิโชคกุล หัวหน้าสำนักข่าวเบาะแสภาคเหนือ ( นักรบพระเจ้าพรหม ) /// รายงาน ///
![]()
