การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. คู่บิ๊กแมตช์ กลุ่ม ซี ระหว่าง”อินทรีเหล็ก” เยอรมนี แชมป์โลก 2014 กับ ยูเครน ที่สนามสต๊าด ปิแอร์ มูรอย เมืองลีลล์
นัดนี้ โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ของทีมชาติเยอรมนี ให้ชโคดราน มุสตาฟี่ ลงเล่นเป็นตัวจริง แทนมัตส์ ฮุมเมิลส์ กองหลังตัวจริงที่ยังมีอาการบาดเจ็บ โดยมุสตาฟี่ ยืนเซ็นเตอร์คู่กับเฌโรม บัวเต็ง
ส่วนแนวรุก นำทัพโดยโทนี่ โครส, โทมัส มุลเลอร์, มาริโอ เกิตเซ่, เมซุต โอซิล
ด้านยูเครน แนวรุกตัวหลักได้ลงพร้อมหน้า ทั้งอังเดร ยาร์โมเลนโก้ ปีกจากทีมดินาโม เคียฟ, เยฟเก้น โคโนเปลียนก้า และกองกลางจากทีมเซบีญ่า ในลา ลีกา สเปน
สำหรับนักเตะ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี เล่นระบบ (4-2-3-1) – มานูเอล นอยเออร์(กัปตันทีม), เบเนดิกท์ โฮเวเดส, เฌโรม บัวเต็ง, สโคดราน มุสตาฟี่, โยนาส เฮคเตอร์, โทนี่ โครส, ซามี่ เคดิร่า, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, โทมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, มาริโอ เกิตเซ่
ส่วน ยูเครน เล่นระบบ(4-3-3) -อังเดร เปียตอฟ, อาร์เต็ม เฟเดตสกี้, เยฟเก้น คาเชริดี้, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, เวียเชสลาฟ เชฟชุก (กัปตันทีม), ตาราส สเตปาเนนโก้, เซอร์เก ซีดอร์ชุก, วิกเตอร์ โควาเลนโก้, อังเดร ยาร์โมเลนโก้, เยฟเก้น โคโนเปลียนก้า, โรมัน โซซูลย่า
เยอรมนีเป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน และนาทีที่ 5 เกิตเซ่ลากเข้ามายิงบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ติดตัวกองหลังยูเครน ก่อนที่ดรักซ์เลอร์จะยิงซ้ำ แต่ติดบล็อก
หลังจากนั้นยูเครนโต้กลับเร็ว และมีโอกาสได้ประตู จากจังหวะที่ โคโนเปลียนก้าได้ยิงบริเวณกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่นอยเออร์พุ่งชกบอลออกไปได้
ทัพนักเตะเยอรมนีครองบอลบุกมากกว่า ขณะที่ ยูเครนตั้งรับแน่น และคอยสวนกลับ
นาทีที่ 11 มุลเลอร์โหม่งย้อนเข้ามาในเขตโทษให้เฮคเตอร์เอี้ยวตัวยิง แต่บอลแฉลบไม่เต็มเท้า พลาดได้ประตู
นาทีที่ 19 เยอรมนีได้ประตู เมื่อโทนี่ โครสเปิดฟรีคิกจากทางด้านขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ มุสตาฟี่เติมเกมขึ้นมาโขกสะบัด บอลเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
หลังจากนั้น ยูเครนทำเกมบุกได้มากขึ้น และนาที 25 คาเชริดี้ กองหลังขึ้นมาโหม่งในจังหวะเต็มมุม แต่นอยเออร์ซูเปอร์เซฟปัดไว้ได้
ถัดมาไม่ถึงนาที เยอรมนีได้ลุ้นประตูเพิ่ม จากจังหวะที่โครสเปิดบอลยาวไปในถึงหน้ากรอบเขตโทษ ซามี เคดิร่าเกี่ยวบอลด้วยเท้าขวา และยิงด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่เปียตอฟ นายทวารของยูเครนป้องกันไว้ได้
เกมสนุกสูสี นาทีที่ 30 เชฟชุกได้จังหวะยิงจากระยะ 25 หลา บอลเฉี่ยวเสา
นาที 36 ยูเครนพลาดตีเสมอ อย่างน่าเสียดาย เมื่อยาร์โมเลนโก้ ลากบอลมาทางด้านขวา ก่อนจะชิพไปที่เสาสอง ให้โคโนเปลียนก้ายิง บอลผ่านตัวนอยเออร์ไปแล้วและกำลังจะเข้าประตู แต่บัวเต็งสกัดออกมาได้อย่างหวุดหวิด ขณะที่อุปกรณ์เทคโนโลยี่โกล์ไลน์ยืนยันชัดเจนว่าบอลยังไม่ข้ามเส้นประตู
จากนั้นไม่สามารถยิงเพิ่มได้ จยบครึ่งแรก เยอรมนีนำ 1-0
เกมครึ่งหลัง ต้นเกม เยอรมนีออกสตาร์ตได้ดีกว่า นาทีที่ 48 ดรักซ์เลอร์ลกหลบไปยิงในเขตโทษ แต่เปียตอฟพุ่งปัดไว้ได้
ช่วง 10 นาทีแรกของครึ่งหลัง นักเตะอินทรีเหล็กครองบอลบุกมากกว่า แต่แนวรับของยูเครนต้านทานไว้ได้
นาทีที่ 69 โฮเวเดสพาบอลขึ้นมทางด้านขวา แล้วโยนไปที่เสาสองให้ดรักซ์เลอร์ยิงข้ามคาน
นาทีที่ 73 เกิตเซ่ลากขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนจะยิงในกรอบเขตโทษ แต่เปียตอฟล้มตัวรับไว้ได้
ถัดมาไม่ถึงนาที เกิตเซ่ไหลบอลให้มุลเลอร์ซัดด้วยเท้าขวา แต่เปียตอฟปัดไว้ไดอีกครั้ง
นักเตะทีมอินทรีเหล็กยังต่อบอลบุกเป็นชุด
นาทีที่ 86 โอซิลได้บอลหลุดไปยิงในเขตโทษ แต่เปียตอฟออกมาบล็อกไว้ได้ทันที
จากนั้นเปียตอฟเตะเปิดบอลโด่งมาถึงหน้าประตูเยอรมนี มุสตาฟี่โหม่งคืนหลัง ขณะที่นอยเออร์วิ่งออกมาจากเส้นประตู หวังจะตัดบอล แต่โชคดีที่บอลไม่ตรงกรอบ ทำให้รอดพ้นจากการเสียประตู
ช่วงทดเวลาบาดจ็บ ยูเครนได้เตะมุม กองหลังเยอรมนีเคลียร์ออกมาได้ พร้อมกับโต้กลับเร็ว โอซิลได้บอลพาขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะเปิดมาที่หน้าประตูให้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ตัวสำรองที่ลงมาไม่ถึงนาที ยิงเสียบตาข่าย ให้เยอรมนีชนะ ยูเครน 2-0 เก็บ 3 แต้มได้ พร้อมนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม ซี
ข่าวและภาพจาก: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1465764817
