ด่วน !!! ตำรวจบุกรวบตัวพ่อเลี้ยงโหด คาห้องเก็บศพ ร.พ.อุดรฯ หลังทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 3 ขวบเสียชีวิต

อุดรธานี – รวบตัวพ่อเลี้ยงโหด คาห้องเก็บศพ ร.พ.อุดรฯ ทำร้ายลูกเลี้ยงวัย3 ขวบเสียชีวิต

วันที่ 28 กุมภาพันธุ์ 60 เวลา 10.00 น.พ.ต.อ.พิเชษ วงษ์บุรี ผกก.สภ.กุมภวาปี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงษ์พันธ์ นาขวา รอง ผกก.สส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ได้ประชุมสอบถามสำนวนคดี กรณีเด็กชายเอ อายุ 3 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์ต้องนำเครื่องช่วยหายใจทำการยื้อชีวิตเอาไว้ พร้อมสั่งการให้รวบรวมหลักฐานพยานแวดล้อมทั้งหมด ไปขอหมายจับที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ในวันนี้ โดยเด็กชาย เอ ที่บาดเจ็บมีรายงานล่าสุดว่า เมื่อคืนเวลา 23.05 น. ได้สิ้นใจลง

พ.ต.อ.พิเชษฯ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 24 ก.พ.2560 ซึ่งได้ให้ตำรวจสอบสวน และตำรวจสืบสวน ไปตรวจสอบดูบ้านพักของเด็ก ติดตามเหตุทำร้ายร่างกายเด็กชาย เอจริงหรือ ที่นำตัวถูกส่งมารักษาตัวโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี พร้อมกับได้เรียกตัวพยานในที่เกิดเหตุ และพ่อ แม่ ของเด็กชายเอ มาสอบปากคำอย่างละเอียด ซึ่งจากการพิจารณาแล้ว เด็กชาย ที่ได้รับบาดเจ็บไม่น่าที่จะเกิดเหตุตามที่ พ่อ แม่ ของเด็กให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะลักษณะการบาดเจ็บว่าการบาดเจ็บสาหัส เกินกว่าที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ จึงได้รวบรวมหลักฐานพยานต่างๆ เพื่อเสนอขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 1 คือ พ่อเลี้ยงของเด็กชายเอ

ส่วนบรรยากาศ บ้านของเด็กชายเอ ที่บ้านท่าลี่ ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี ญาติพอทราบข่าวว่า เด็กชายเอ เสียชีวิตเมื่อคืนนี้ ได้มารวมตัวกันและนำเต็นท์มากางไว้ข้างบ้านพร้อมกับโต๊ะและเก้าอี้ เตรียมจัดงานศพ ทุกคนส่วนใหญ่ลงความคิดว่า เด็กชายเอ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียชีวิต  นางเชาวรัตน์ ป้อมแสนพล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 332 ม.4 บ้านท่าลี่ ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ญาติเด็กชายเอ กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนมานั่งเล่นอยู่ที่บ้านญาติที่อยู่ใกล้กับบ้านเด็กชายเอ ห่างไปประมาณ 20 เมตร เห็นพ่อเลี้ยงได้อุ้มเด็กชายเอหมดสติ ที่ใส่แต่เสื้อ ไม่ได้นุ่งกางเกง ออกมาด้านหลังบ้านพัก แล้วทำการเขย่าร่างเด็กชายเอ หลายครั้งและทำการราดน้ำ เพื่อจะให้เด็กชายเอ ให้รู้สึกตัว

จากนั้นตนจึงได้วิ่งมาดูและร้องถามว่าหลานเป็นอะไร พ่อเลี้ยงตอบว่าจะใส่กางเกงให้กับเด็กชายเอ ตนจึงรีบนำร่างของหลานชาย นำส่ง โรงพยาบาลเพื่อสุขภาพตำบล ในสภาพที่ร่างกายของเด็กชายเอ ไม่น่าจะมีชีวิตรอด ก่อนไปส่งรักษาต่อ โรงพยาบาลศูนย์ อุดรธานี แล้วเสียชีวิต

นางบัน พลเสน อายุ 88 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.4 บ้านท่าลี่ ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งยายทวดของ เด็กชายเอ กล่าวว่า หลานเขยคนนี้ พึ่งแต่งงานกับหลานสาวคือแม่ ของเด็กชายเอ อยู่กินที่บ้านหลังดังได้ประมาณ 6 ตนได้สังเกต เห็นหลานชาย เด็กชายเอ หวาดกลัวตัวสั่นเวลาอยู่กับพ่อเลี้ยงตามลำพังสองคน จึงได้สอบว่าพ่อเลี้ยง เคยตีหรือทำร้ายหรือไม่ แต่หลานชายเด็กชาย ไม่กล้าบอกเห็นลักษณะมีอาการกลัว

โดยตอนเช้าในวันเกิดเหตุ ตนยังพาหลานชายเด็กชาย ไปใส่บาตรที่หน้าบ้าน พอเวลาช่วงบ่าย แม่ของเด็กชายเอ ออกไปซื้อต้นหอม ปล่อยเด็กชายเอ อยู่บ้านกับพ่อเลี้ยงสองคน มารู้อีกที หลานชาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้วและมาเสียชีวิตในที่สุด
นางบัน พลเสน ได้กล่าวทั้งน้ำตา รู้สึกเสียใจมากที่หลานชายมาตาย เพราะตนเองเลี้ยงมาตั้งแต่แม่ของเขาคลอดออกมา ไม่นึก ไม่ฝันว่า หลานชายที่อยู่วัยกำลังน่ารัก จะมาตายก่อนวัยอันควร ตนไม่เชื่อว่าหลายชายจะตายเพราะอุบัติเหตุ ต้องมีคนทำให้เขาตายอย่างแน่นอนคิดว่าจะเป็นพ่อเลี้ยงเป็นคนทำ

ส่วน น.ส.อัจฉริยา สาวงษ์นาม ครูผู้ช่วยดูแลเด็ก ประจำศูนย์เด็กเล็กบ้านกุดยาง ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี กล่าวว่า เด็กชายเอ เข้ามาเรียน ที่ศูนย์เด็กลเล็กแห่งนี้ เมื่อเดือน ก.ค.59 ที่ผ่านมา เป็นเด็กที่มีนิสัยร่าเริง พูดคุยเก่ง เล่นกับเพื่อน แต่ภายหลังกลายเป็นเด็กเงียบ ไม่ชอบเล่นกับเพื่อน และขาดเรียนบ่อย ตั้งแต่แม่ของเขามีสามีใหม่ ซึ่งแม่ของเด็ก แจ้งว่า เป็นไข้เลือดออก

ตั้งแต่สิ้นเดือน พ.ย. 59 ไม่ได้มาโรงเรียนเลยจนถึงปัจจุบัน และยายของเด็กชายเอมาแจ้งว่าจะย้ายไปเรียนที่ศูนย์เด็กเล็กบ้านท่าลี่ ในระยะหลังก่อนที่จะไม่มาเลยนั้น เวลาพ่อเลี้ยงมารับ เด็กชายเอ ที่โรงเรียน เด็กชายเอ จะร้องไห้และวิ่งหนี บางครั้งวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังครู ดังกล่าว

ต่อมาเวลา13.40 น. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ฉวีทอง สว.สส. สภ.กุมภวาปี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน หลังจากศาลได้อนุมัติหมายจับ เลขที่ จ.74/2560 ลงวันที่ 28 ก.พ.2560 เข้าทำการจับกุม ตัว พ่อเลี้ยง อายุ 31 ปี ราษฎรบ้านกุดยาง ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี ทำการใส่กุญแจมือ ที่บริเวณห้องเก็บศพโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งได้ไปขอดูศพเด็กชายเอ พร้อมกับภรรยาและญาติ ซึ่งได้แสดงหมายจับของศาล ให้ดู พร้อมกับแจ้งข้อหาให้ทราบว่า คือข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ทำให้พ่อเลี้ยงโหดรายนี้หน้าซีดถึงกับเข่าอ่อน แล้วควบคุมตัวรถไปโรงพักกุมภวาปี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ภาพและข้อมูล : เพจ อุดรธานี

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก ข่าวชัดประเด็นจริง  http://www.khaochad.com/79733/?r=1&width=1366

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *