จากกรณีนายสิทธิชัย มีสุข อายุ 30 ปี ชาวต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ใช้มีดดาบเชือดคอนายโสภณ โสตระกาล อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้างทำเฟอร์นิเจอร์จนเสียชีวิตภายในห้องแถวไม่มีเลขที่ ริมถนนสายสุวรรณศร หมู่ 7 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี แล้วนำศพใส่รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน กจ 801 ปัตตานี ซึ่งเป็นของผู้ตาย แล้วขับหลบหนีก่อนนำไปเผาที่ข้างถนนสาย ประจันตคาม-ดงไชยมัน หมู่ 1 ต.ประจันตคาม เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว สุดเหี้ยม!! ฆ่าปาดคอหนุ่ม-ลากศพใส่เก๋งเผา ลุงเห็นช็อก-หลานบอกอย่ายุ่ง ไม่อยากฆ่าลุงอีกคน(คลิป)

ความคืบหน้าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 เม.ย. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ประจันตคาม ได้รับแจ้งว่าพบนายสิทธิชัย หลบซ่อนตัวอยู่ที่ในป่าเขาน้อย เชิงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ 13 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ แสงจันทร์ สว.สส.สภ.ประจันตคาม จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ป่ารกทึบ เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเดินทางเข้าไปยังป่าเขาน้อยระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร กระทั่งพบนายสิทธิชัย หลบซ่อนอยู่ในป่า จึงเข้าจับกุมตัวพร้อมนำมาสอบปากคำที่ สภ.ประจันตคาม

ต่อมา พ.ต.อ.วันชัย พิทักษ์ตันสกุล ผกก.สภ.ประจันตคาม ได้มาสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง พร้อมให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า คืนเกิดเหตุได้นั่งดื่มสุรากับนายทรงพจน์ ฝั้นคำแดง ซึ่งเป็นลุง หลังจากนั้นลุงได้โทรศัพท์เรียกให้นายโสภณ มาหาที่บ้าน เมื่อนายโสภณ มาถึงได้นั่งดื่มสุรากัน 2 คน ส่วนตนได้ขอตัวไปนอน หลังจากนั้นได้ยินเสียงทั้ง 2 คนทะเลาะกัน เรื่องเงินค่ารถเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปบวชของตน ทำให้ทั้ง 2 คนโต้เถียงกันจนได้ยินเสียงดังโป๊ก จึงหันไปดูเห็นลุงใช้ครกทุบไปที่ศีรษะของนายโสภณ ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะต่อสู้กัน จากนั้นตนจึงได้หยิบมีดดาบขึ้นมาจี้ที่คอนายโสภณ แต่ปรากฏว่ามีดได้ทิ่มเข้าไปในคอของนายโสภณ จนเลือดสาดและเสียชีวิต

“หลังจากนั้นลุงได้ให้ตนนำศพไปเผา ตนจึงบอกลุงว่าเป็นเรื่องของลุงที่ก่อเหตุ ดังนั้นลุงต้องช่วยกันยกศพไปใส่รถ พร้อมทั้งได้ช่วยกันห่อศพก่อนนำขึ้นรถเพื่อให้ตนไปเผาทิ้ง และตกลงกันว่าเมื่อเผาศพเสร็จแล้ว จะขับรถกลับมารับลุงเพื่อหลบหนีไปด้วยกัน ขณะขับรถนำศพไปเผาเกิดความคิดว่าที่จะต้องรับผิดคนเดียว จึงนำยางรถจยย.กับโฟมจุดไฟเผาทั้งคันรถ หลังจากเผาเสร็จจึงได้หลบหนีเข้าไปในป่า จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้” นายสิทธิชัย กล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้โทรศัพท์ไปหานายทรงพจน์ ให้มาพบเพื่อจะสอบปากคำเพิ่มเติม ปรากฏว่าน.ส.จิตรา ฝั้นคำแดง ซึ่งเป็นลูกสาว ได้ขับรถปิกอัพเพื่อจะพาพ่อไปหาที่พักแถวอำเภอศรีมหาโพธิ เนื่องจากกลัวนายสิทธิชัยโกรธแค้น กลับมาทำร้าย เมื่อทราบว่าตำรวจตามตัวจึงขับรถพาพ่อมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นนายทรงพจน์ยังให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายทรงพจน์ ไว้สอบสวน เพื่อจะขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อควบคุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป