กทม.สั่ง 50 เขตรับมือฝนตกหนัก-น้ำท่วมขัง กำชับทุกหน่วยงานปฎิบัติแจ้งเตือนปชช

 

 

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. ลงพื้นที่ตรวจการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่เขตสวนหลวง บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย ถนนพัฒนาการ ซ.19 ถนนพัฒนาการ คลองบ้านป่า-คลองลาว-ถนนศรีนครินทร์ และหน้าโชว์รูมเบนซ์ โดยมีคณะผู้บริหารข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตสวนหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่

นายจักกพันธุ์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งบริเวณถนนพัฒนาการจะมีปัญหาอยู่ 2 จุด จุดแรกบริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย ซ.พัฒนาการ 17 ซึ่งสำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 10 นิ้ว เพิ่มอีก 1 เครื่อง จากเดิมมีอยู่แล้ว 1 เครื่อง โดยสามารถระบายน้ำได้ 1.3 คิว และบริเวณหน้าโชว์รูมเบนซ์ ถนนพัฒนาการ

โดยบริเวณนี้สำนักการระบายน้ำได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้แล้ว จำนวน 2 เครื่อง โดยมีกำลังสูบทั้งหมด 5 คิว แต่ด้านหนึ่งจะเป็นระบบชั่วคราว ด้านหนึ่งเป็นระบบถาวร ทำให้การระบายน้ำช้าไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วสามารถที่จะระบายน้ำได้ไม่เกินครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงในกรณีฝนตกหนัก

ทั้งนี้ในปี 61 สำนักการระบายน้ำจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำเป็นการถาวร จะทำให้การระบายน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น บริเวณที่มีการขุดอุโมงค์ทางลอดในถนนพัฒนาการ ซึ่งอาจมีเศษวัสดุจากการก่อสร้างตกลงไปในท่อระบายน้ำ โดยมอบหมายให้สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตสวนหลวง ดำเนินการตรวจสอบในระบบท่อ หากพบว่ามีเศษวัสดุในท่อระบายน้ำ ให้ผู้รับจ้างก่อสร้างอุโมงค์ดำเนินการแก้ไขทันที

นอกจากนี้ กทม.ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝน โดยได้หารือกับสำนักการระบายน้ำ ร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสั่งการให้สำนักการระบายน้ำ รายงานสภาพอากาศให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบทุกต้นชั่วโมง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบข้อมูลว่ามีฝนเข้ามาในพื้นที่เขตนั้นๆ หรือไม่ หากพบว่ามีฝนเข้ามาในพื้นที่ หรือคาดว่าฝนจะตก ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เตรียมพร้อมก่อนที่ฝนจะตก

ส่วนในกรณีที่ฝนตกลงมาแล้ว สำนักการระบายน้ำจะต้องรายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และรีบดำเนินการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังทันที ทั้งนี้ในระบบระบายน้ำที่กทม.มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในระบบท่อ คลอง เครื่องสูบน้ำ ประมาณ 2,000 เครื่อง อุโมงค์ขนาดใหญ่ จำนวน 7 อุโมงค์ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การระบายน้ำ มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การระบายน้ำถือเป็นว่าเป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่ต้องร่วมมือกันเข้าดำเนินการ และสิ่งสำคัญ ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติ คือต้องรายงานสถานการณ์ก่อนฝนตก รวมทั้งต้องแจ้งให้ประชาชนทราบถึงพื้นที่ที่ฝนจะตก และรายงานพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมขัง เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทาง และได้วางแผนทั้งในด้านหลักการและการปฏิบัติไว้แล้ว ซึ่งในกรณีที่เกิดน้ำท่วมขัง สำนักการระบายน้ำ จะต้องเร่งระบายน้ำออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งเตรียมเครื่องสูบน้ำเมื่อเกิดกรณีน้ำท่วมขัง

สำหรับพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง จะขึ้นอยู่กับปริมาณฝนที่ตกลงมา หากพื้นที่ใด มีฝนตกลงมาไม่เกิน 60 มิลลิเมตร โอกาสของการเกิดน้ำท่วมจะเป็นไปได้น้อย แต่หากมีฝนตกลงมา 90 มิลลิเมตร ถือว่ามีความน่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม กทม.สามารถระบายน้ำเมื่อเกิดฝนตก ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าปี 59

 

ขอขอบคุณแหล่งข่าว จากข่าวสด  https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_342238

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *