รวบรปภ.โรคจิตมีดจี้ยายวัย70บังคับข่มขืน

จับรปภหื่น, มีดจี้ข่มขืน, ข่มขืนยาย, รปภหื่น, รวบ, รปภ, หื่น, มีด, จี้, ยาย, วัย, บังคับ, ข่มขืน, 5มิย, นามสมมุติ

ยายวัย 70 เดินเลือดอาบขอความช่วยเหลือ ถูกรปภ.ห้างดังเมืองพัทยาสุดหื่น บุกใช้มีดจี้ข่มขืนยับ ฮึดสู้ถูกแทงอก ชาวบ้านช่วยจับส่งตำรวจทันควัน

          วันนี้(5มิ.ย.) เวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขืนยายวัย 70 ปีไว้ได้ เหตุเกิดภายในซอยกอไผ่ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและอาสาสมัครตำรวจรีบไปตรวจสอบ

รวบรปภ.โรคจิตมีดจี้ยายวัย70บังคับข่มขืน

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้นางชม(นามสมมุติ) อายุ 70 ปี ซึ่งมีบาดแผลถูกแทงที่หน้าอกด้านซ้ายมีเลือดไหลนอง โดยมีพลเมืองดีกว่า 10 คนควบคุมตัว นายสมัย ชัยสิทธิ์ อายุ 30 ปี รปภ.ห้างดังเพิ่งเปิดใหม่ย่านพัทยาเหนือ ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมของกลางอาวุธมีดยาวประมาณ 30 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานรวบรปภ.โรคจิตมีดจี้ยายวัย70บังคับข่มขืน
สอบถามนางชม ทราบว่า ขณะที่กำลังนอนอยู่ภายในกระต๊อบคนเดียว ได้มีคนร้ายเข้ามาเอามีดจี้ที่หน้าอก ขู่ว่าหากขัดขืนจะใช้มีดแทงให้ตาย ก่อนจะบังคับข่มขืนยายจนสำเร็จความใคร่ แต่ระหว่างนั้น ทางยายก็พยายามดิ้นต่อสู้ คนร้ายใช้มีดแทงเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายก็ได้หลบหนีออกไป ยายจึงเดินพาร่างโชกเลือดมาขอความช่วยเหลือ
ด้านนายธนาศักดิ์ คนชม อายุ 34 ปี หนึ่งในพลเมืองดี เล่าว่า ขณะที่ตนเองขายของอยู่นั้น สังเกตเห็นยายเดินโซซัดโซเซมีเลือดไหลอาบตัวมา พร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือว่าถูกทำร้ายร่างกายและข่มขืน โดยได้บอกลักษณะรูปพรรณสัณฐานคนร้าย ตนเองจึงรีบเรียกพรรคพวกที่ขายของอยู่ในละแวกเดียวกันออกติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งเห็นคนร้ายเดินลอยหน้าลอยตาตีเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ริมถนน จึงรีบจับตัวมาให้ยายชี้ตัวและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

รวบรปภ.โรคจิตมีดจี้ยายวัย70บังคับข่มขืน
เบื้องต้นนายสมัย ผู้ก่อเหตุยังให้การปฏิเสธ อ้างว่า ตนไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้ก่อเหตุนั้นคือเพื่อนที่เป็นรปภ.ด้วยกันที่ห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงและประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บดีเอ็นเอสำหรับตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ สำหรับใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนต่อไป

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – คมชัดลึก   http://www.komchadluek.net/news/crime/280865

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *