คุณมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การที่ผมตรวจสอบเรื่องโครงการยืมเรียนมาประมาณ 2 เดือน ซึ่งส่งผลกระทบแก่เด็กนักเรียน 14 ล้านคน และผู้ปกครอง 48 ล้านคน ได้บังเอิญไปเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ที่แอบแฝงอยู่ในกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเคยมีดำริว่า ต้องประหยัดเงิน แต่ความจริงแล้วมีเบื้องหลัง ปัจจุบันองค์การค้ามียอดขายต่ำมากแต่ยอดขายของเอกชนกลับกลายว่ามียอดขายสูงขึ้น อาจจะเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐเอาใจออกห่างราชการแล้วไปทำให้เอกชนมีกำไรขึ้นมา แล้วที่ผมบอกว่า ธุรกิจแอบแฝง มีกระบวนการที่มีข้าราชการประจำเข้าไปเกี่ยวข้องร่วมจับมือกับบริษัทโดยที่รัฐมนตรีไม่รู้เลยเป็นปัญหาว่าเราอาจจะไปกระทบผลประโยชน์ของเขาอย่างรุนแรง

คุณมงคลกิตติ์ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประชุมเปิดศูนย์ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย และมีคนใกล้ชิดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไปเปิดงานและได้มีคุณครูท่านหนึ่งโทรมาหาผมที่มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นขอเรียนสายกับผมโดยตรงและบอกว่าให้ผมระวังตัวเพราะผู้มีอำนาจคนดังกล่าวได้พูดเปรยกับคณะครูอีกประมาณ 30 คน ว่า คุณมงคลกิตติ์มาตรวจสอบกระทรวงศึกษาธิการหนักวิธีการแก้ไขปัญหาจะทำอย่างไร แล้วผู้มีอำนาจคนดังกล่าวก็เสนอแนวคิดว่า จะให้อุ้มหรือเชิงข่มขู่ในการฆาตกรรม ถ้าถามว่าผมกังวลไหม ผมตอบได้ว่ากังวลแต่ก็เป็นเรื่องปกติของการต่อสู้เพื่อชาติ บ้านเมืองและประชาชน ในขณะเดียวกันผมก็ต้องป้องกันตัวไม่ประมาทและยังไงผมก็จะเดินหน้าตรวจสอบต่อไปเพราะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถลดราวาศอกได้

ขอขอบคุณแหล่งข่าว จากข่าวชัดประเด็นจริง http://www.khaochad.com/101853/?r=1&width=1600
![]()
