ข่าวแถลงการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ”ระเบียงเศรษฐกิจทางการแพทย์และเมืองสุขภาพเชียงใหม่”New Medico-Economic Corridor and Chiangmai Medical City

 

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560

ณ.ห้องนันทา 1 และ 2 โรงแรมฮอลิเดย์อิน จังหวัดเชียงใหม่ โดยสมาคมคลินิกเอกชนซึ่งเป็นองค์กรศูนย์รวมของสถานพยาบาลประเภทคลินิกทุกด้าน ได้ร่วมกับ เครือข่ายสหวิทยาการ คณะกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา ราชบัณฑิตยสภา สมาคมแพทย์อาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย สมาคมพลังแพทย์จดจัดตั้ง โดยความร่วมมือของจังหวัดเชียงใหม่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และภาคีเครือข่าย ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องระเบียงเศรษฐกิจทางการแพทย์และเมืองสุขภาพเชียงใหม่ หรือ New Medico-Economic Corridor and Chiangmai Medical City ขึ้นโดยมีพลอากาศตรี นายแพทย์ขวัญชัย เศรษฐนันท์  นายกสมาคมคลินิกเอกชน เป็นผู้กล่าวรายงานการจัดการประชุมนี้  และกล่าวเปิดการประชุมโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ยงยุทธ วัชระดุลย์ ราชบัณฑิต ประธานคณะกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา แห่งราชบัณฑิตยสภา มีเนื้อความว่าคณะผู้จัดเห็นความสำคัญในการสร้างความรู้ความเข้าใจในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้บรรลุผลถึงความมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ควบคู่กับความมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ (Longevity with quality of life)  ภายใต้หัวข้อ ”  ระเบียงเศรษฐกิจการแพทย์และเมืองสุขภาพเชียงใหม่” ขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่อัน   เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการ และเครือข่ายทางสังคมได้พบกัน แชร์ข้อมูลสถานการณ์ ความเห็น และสร้างความร่วมมือในทางเศรษฐกิจเกี่ยวเนื่องกับการแพทย์ในระดับจังหวัด ถึงระดับพื้นที่ซึ่งเชื่อมโยงกันเป็นระเบียงหรือ cooridor ทั้งภายในประเทศและภูมิภาคใกล้เคียง ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจชื่อ New Medico  Economic  Corridor and Chiangmai Medical City

ในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเพื่อนำความสมบูรณ์ ความสุขมาสู่คนไทยและคนในพื้นที่อันเป็นระเบียงเศรษฐกิจ รวมถึงผู้มาเยือนนั้น    จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจสถานะของสังคมและพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างแม่นยำในบริบทต่างๆ ซึ่งต้องทำการค้นหาความจริงของสังคมและเศรษฐกิจภายในพื้นที่และปัจจัยภายนอกพื้นที่ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะข้อมูลความจริงที่ว่า ๑โลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็วจากผลของการพัฒนาเทคโนโลยี ดิจิตัล การสื่อสารและการคมนาคม และ ๒ โลกมีเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อมเช่นปัญหาโลกร้อนขึ้นและมีภาวะมลพิษที่คุกคามสุขภาพของคนอย่างชัดเจนและรุนแรง ๓ ประชากรของโลกมีการเคลื่อนย้ายทั้งแบบชั่วคราวและถาวร ๔ คนในโลกนี้ยังคงมีความต้องการพื้นฐานของชีวิต แต่มีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงในทางรุนแรงเพิ่มขึ้น มีพฤติกรรมบริโภคข่าวสารข้อมูลทางสื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเพิ่มขึ้นมาก     เพื่อทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้นำมาประกอบการพิจารณาทำงานด้วย ๑ การพัฒนาระบบการจัดการ  ๒ การค้นคว้าและนำมาใช้ซึ่ง วิธีการ สิ่งประดิษฐ์(นวัตกรรม) ใหม่ๆ  ที่จะนำมาพัฒนาเพิ่มรายได้ของบุคคล ครัวเรือน ชุมชน ธรกิจและสังคม โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าของการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและสมดุล นำมาซึ่งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความพึงใจของคนไทยและคนที่เกี่ยวข้องได้จริง

การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจที่ผ่านมา เกิดจากผู้นำทางรัฐบาล กำหนดนโยบายและโครงการขึ้นจากความเห็นของบุคคล โดยขาดการศึกษา วิจัย ในหลักการ รูปแบบวิธีการ และผลกระทบ   หลายโครงการได้นำมาซึ่งหายนะของระบบสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ประเทศไทยติดกับดักของนโยบายและการจัดการโครงการขนาดใหญ่ และประเทศเสียโอกาสและศักยภาพในทุกด้าน

ในการประชุมนี้ มุ่งหมายให้คนไทยได้หันมาใช้ปัญญาพินิจพิเคราะห์สภาพของสังคมในพื้นที่ และเชื่อมโยงกับสังคมภายนอกพื้นที่ ค้นหาความจริงของสังคมและคิดค้นเทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ที่เป็นทางออกที่ดีด้วยการวิจัยและพัฒนาแบบสหวิทยาการ  เนื่องจากปัญหาทางสังคมและปัญหาของโลกมีความยุ่งยากซับซ้อน สิ่งหนึ่งมีอิทธิพลและกระทบต่ออีกสิ่งหนึ่งและกระทบซึ่งกันและกัน การวิจัยโดยใช้หลักวิชาหรือศาสตร์ใดๆ เพียงลำพังอย่างที่เป็นมา ไม่เพียงพอที่จะได้ข้อมูล ความรู้ และวิธีการที่จะนำมาใช้เพื่อการแก้ไขปัญหาของประชาชน และพัฒนาให้ดีขึ้นได้  จำเป็น ต้องใช้การวิจัยแบบสหวิทยาการ (Interdisciplinary research) หลักการวิจัยแบบสหวิทยาการนี้  ได้พัฒนาขึ้นโดยราชบัณฑิตยสภา ในส่วนคณะกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา ซึ่งมีการวิจัยแนวทางนี้โดยเครือข่ายสหวิทยาการในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ ๗ เครือข่ายทั่วประเทศ  หากได้ผลสรุปจากการวิจัยหรือรูปแบบการพัฒนาใดๆแล้ว  เมื่อจะนำไปใช้กับผู้คนในสังคม จำเป็นต้องใช้หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ในการบริหารแผนงานโครงการ และมีการติดตามประเมินผลเพื่อเป็นข้อมูลย้อนกลับสู่การปรับปรุงตามความจริงที่พบ

 

สำหรับการพัฒนาคนในสังคมนั้น สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ    จำเป็นที่พื้นที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว  เช่นกันเทคโนโลยีทางการแพทย์มีการเปลี่นแปลงอย่างรวดเร็วในทางที่เป็นคุณกับสังคม  มีการพัฒนาการแพทย์ที่โดดเด่น มีศักยภาพในการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำ รวดเร็ว และใช้การรักษาที่จำเพาะอย่างยิ่ง เรียกว่า precision medicine , personalized medicine และมีการแพทย์ฟื้นสภาพและสร้างเซลล์เนื้อเยื่อและอวัยวะขึ้นทดแทน หรือที่เรียกว่า Regenerative medicine ซึ่งทั่วโลกมีการวิจัยและพัฒนาวิธีการตรวจวินิจฉัย รักษา สร้างนวัตกรรมในการแพทย์ด้านนี้อย่างมาก  ในหลายประเทศนั้นรัฐเห็นประโยชน์เป็นผู้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเพื่อนำผลวิจัยที่มีคุณค่าไปใช้ในการฟื้นสภาพและสุขภาพให้คนภายในชาติ   ประเทศไทยมีนักวิจัยด้านนี้จำนวนมาก และสร้างผลวิจัยที่ดียิ่ง เกิดจากความพยายามศึกษาค้นคว้าของนักวิจัย  แต่งานวิจัยด้านนี้ไม่พัฒนาเท่าที่ควร เนื่องจากสังคมการแพทย์ไทยอยู่ในอิทธิพลของการแพทย์แบบ conventional หรือที่หลายท่านเรียกเชิงเปรียบเทียบว่า เป็นการแพทย์แบบดั้งเดิม หรือ traditional medicine  ซึ่งใช้โปรโตคอลในการรักษาผู้ป่วยกลุ่มโรคหนึ่งๆแบบเดียวกัน ขาดความจำเพาะที่ละเอียดอย่างเพียงพอ

 

อย่างไรก็ดีประเทศไทยได้ชื่อว่ามีบุคลากรการแพทย์และระบบสุขภาพที่มีคุณภาพทางวิชาการ เทคนิค และการมีลักษณะการให้บริการที่อบอุ่นและเป็นมิตรเสมือนหนึ่งว่าผู้ป่วยเป็นคนในครอบครัว เป็นที่ยอมรับของคนไทยและนานาชาติ ในทางเศรษฐศาสตร์จึงถือได้ว่าบุคลากรทางการแพทย์ของไทย   เป็นทรัพย์สินหรือ assets ของชาติ (ไม่ใช่เป็นภาระของงบประมาณประเทศ อย่างที่ปรากฏเข้าใจผิดกันในข่าวสาธารณะ )ในเรื่องของคุณสมบัติและความสามารถทางการแพทย์ที่สั่งสมกันมา  สถานพยาบาลประเภทคลินิกของไทยจำนวนมากได้สร้างงานคุณภาพ สมคุณค่า และสร้างชื่อให้ประเทศไทยมาต่อเนื่องและนำรายได้เข้าประเทศและกระจายสู่คนไทยทั่วไปมาต่อเนื่องด้วยคุณภาพการรักษาทางการแพทย์เฉพาะด้านเพิ่มขึ้นตามลำดับ  อันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ดีคุณภาพของบริการทางการแพทย์ เป็นสิ่งที่ประสงค์ของทุกๆคนและทุกฝ่ายและเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การดูแลสุขภาพของประชาชนราบรื่น  คุณภาพที่ดีในทางการแพทย์จำเป็นต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีความเป็นไปได้ และที่มีความแม่นตรงมากกว่าการแพทย์ที่เป็นอยู่ซึ่งบางท่านที่ทำงานด้าน precision medicine หรือ personalized medicine เรียกว่าการแพทย์แบบ traditional คือวงการแพทย์แบบ conventional ทำกันมาส่งต่อมาเป็นทอดๆ และถึงทางตันในการรักษาบางกลุ่มโรค โดยเฉพาะโรคของความเสื่อม ความผิดปกติของเมตาโบลิซึม นอกจากนั้นประเทศไทย ยังมีความสามารถในการแพทย์ด้าน longevity and wellness service อีกด้วย

คณะกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา แห่งราชบัณฑิตยสภา ได้ส่งเสริมสนับสนุนการวิจัย การพัฒนา และการนำเสนอผลงานวิชาการทางการแพทย์แบบสหวิทยาการที่เรียกว่าเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ(Regenerative Medicine), precision medicine ซึ่งมีความคุ้มค่าในการวิจัย พัฒนา และการใช้ประโยชน์ในทางสุขภาพและการแพทย์โดยเฉพาะกลุ่มโรคที่มีความเรื้อรังและรักษายาก และมีข้อค้นพบที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างเสริมสุขภาพของคนไทยและชาวโลกได้  เมื่อประเทศประสบภาวะวิกฤตในด้านต่างๆ เพื่อการนำเข้ารายได้มาพัฒนาคนและสังคมไทยในหลายปีที่ผ่านมา  เห็นว่าการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศควรปรับเปลี่ยนเป็นระเบียงเศรษฐกิจทางการแพทย์ โดยเลือกพื้นที่เหมาะสมเพื่อการพัฒนาเป็นเมืองต้นแบบ เช่น เมืองสุขภาพเชียงใหม่  เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนหารือร่วมกันทั้งภาควิชาการ ภาคสังคม ภาคราชการ ภาคธุรกิจ เกี่ยวกับการพัฒนาและการวิจัยนี้  คณะกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนาฯ จึงร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้องได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในเรื่อง New Medico-Economic Corridor and Chiangmai Medical City  ขึ้น ณ.จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงการจัดให้มีการจัดการแบบ Premiam Hospital Management ในโรงพยาบาลภาครัฐ ซึ่งมีการจัดการที่ดีกว่าระบบจัดการภาครัฐเพียงอย่างเดียว ทำให้โรงพยาบาลมีรายได้เพื่อการพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ยากไร้สืบไปในลักษณะสังคมเกื้อกูลกัน จำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัปดาห์นี้  ประเทศไทยได้ผ่านกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติแล้ว ทำให้ประเทศในทุกภาคส่วนมีทิศทางและหลักในการพัฒนาของประเทศในโมเดล Thailand 4.0

การที่มีการประชุมเชิงปฏิบัติการนี้  มีการบรรยายพิเศษ การบรรยายวิชาการ การอภิปราย และการประชุมจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย และการประชุมร่วมเพื่อพัฒนาโมเดลนี้ที่เชียงใหม่   และนำโมเดลดังกล่าวไปใช้ พร้อมวิจัยวัดผลติดตาม และสรุปให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ โดยใช้หลักการวิจัยแบบสหวิทยาการแล้ว  จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อชาวเชียงใหม่ และชาไทย ส่งผลให้การพัฒนาพื้นที่และการพัฒนาประเทศ เป็นไปตามข้อความจริงที่ได้จากการวิจัยไปพัฒนา มากกว่าการทำเป็นเพียงแนวคิดรูปแบบที่ได้มาจากการนำเข้าข้อมูลและรูปแบบจากต่างประเทศ โดยไม่ใช่บริบทของประเทศไทย  แล้วนำมาดำเนินการเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาไม่อาจวัดผลในทางการวิจัยและติดตามได้ ทำให้ประเทศเสียโอกาสในการพัฒนาอย่างมาก

มีผู้เข้าประชุมมาจากภาคส่วนต่างๆทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาชีพ ภาควิชาการทางการแพทย์ และการจัดการ  นับว่าเป็นองค์ปประกอบที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการหารือให้ได้รูปแบบการพัฒนา ตามหัวเรื่องได้อย่างดี   ขออำนวยพรให้คณะผู้จัดการประชุมและผู้เข้าประชุม ได้ประสบความสำเร็จในการ develop รูปแบบการจัดการในด้านระเบียงเศรษฐกิจทางการแพทย์และเชียงใหม่เมืองสุขภาพ  พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนในเชียงใหม่  อาจจัดให้มีคณะทำงานของจังหวัดที่มาจากทุกภาคส่วน เพื่อลงรายละเอียดของโมเดล ร่วมกัน และประสานงานกันโดยใกล้ชิดต่อไป ทำการพัฒนาพื้นที่อย่างมีงานวิจัยรองรับ  หากพบข้อควรปรับปรุงจากการวิจัยติดตาม ก็จะได้นำผลการวิจัยและข้อมูลจริงที่เป็นประโยชน์ดังกล่าวนำไปปรับปรุงโมเดลสืบไป  หากสำเร็จได้รูปแบบที่ดี อาจนำไปสู่การพัฒนา corridor อื่นๆในประเทศได้  นำประเทศไทยก้าวพ้นกับดักประเทศที่ประชาชนมีรายได้ไม่พอเพียงค่อนข้างมากในปัจจุบัน  แม้ประเทศจะเสียโอกาสไปกว่า ๑๐ ปี และจะเริ่มการวิจัยและพัฒนารูปแบบระเบียงเศรษฐกิจการแพทย์นี้ช้าไปบ้าง หากได้กระทำอย่างจริงจัง ร่วมมือกันทุกฝ่าย มีการวิจัยสหวิทยาการอย่างถ้วนทั่ว ประกอบกับคุณสมบัติที่ดีของคนไทย แพทย์ พยาบาล และนักวิจัยไทย ตามที่กล่าวแล้ว ประเทศก็จะก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้นำในการแพทย์ของภูมิภาคโลกได้

ขอให้ผู้เข้าประชุมครั้งนี้ทุกท่าน คนไทยทุกคน ทุกภาคส่วน ได้ยื่นมือประสานพลังประชารัฐในด้านการแพทย์พื้นที่เชียงใหม่นี้ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ชาติ และการร่วมสร้าง Thailand 4.0 ในโครงการนี้ร่วมกัน  จนประเทศไทยมีวัฒนธรรมการทำงานพัฒนาแบบใหม่ ที่ใช้การวิจัยแบบสหวิทยาการเพื่อตอบโจทย์การ

 

แหล่งข่าวจาก – ภาพ-ข่าว – พญาต่อ

ณฐพัชร์ อภิโชคกุล  หัวหน้า่ศูนย์ข่าวเบาะแสภาคเหนือ /////  บก.แม่สายนิวส์ออนไลน์  /////  รายงาน  ///////////

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *