เอพีรายงานวันที่ 23 ก.ย. ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลียังไม่มีวี่แววจะลดลง เมื่อกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา หรือเพนตากอน แจ้งว่า ฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิดพร้อมเครื่องบินรบคุ้มกันของกองทัพสหรัฐบินเข้าไปใกล้ฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือมากที่สุด และเข้าเขตปลอดทหารขึ้นไปทางเหนือมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เอาจริงในการจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่รู้จักคิดของเกาหลีเหนือ
(คลิปเป็นแฟ้มภาพแสดงศักยภาพเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-วันบี แลนเซอร์)
“ภารกิจนี้เป็นการสาธิตวิธีการและการสื่อสารที่ชัดเจนที่สุดของสหรัฐว่าท่านประธานาธิบดีมีทางเลือกทางทหารมากมายที่จะเอาชนะภัยคุกคาม” ดานา ไวต์ โฆษกเพนตากอน กล่าว

เครื่องบินทิ้งระเบิดในภารกิจนี้ ได้แก่ รุ่น B-1B เหินขึ้นจากเกาะกวม ฐานทัพสำคัญของสหรัฐในทะเลแปซิฟิกที่ถูกเกาหลีเหนือข่มขู่จะใช้เอชบอมบ์สั่งสอน ส่วนเครื่องบินรบ F-15C Eagle บินขึ้นจากฐานทัพในโอกินาวาของญี่ปุ่น
“โครงการอาวุธของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและประชาคมโลก เราจึงเตรียมที่จะใช้ศักยภาพทางทหารอย่างเต็มกำลังที่จะปกป้องแผ่นดินอเมริกาและพันธมิตรของเรา” โฆษกเพนตากอนกล่าวย้ำ

การเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือตึงเครียดขึ้นมาก เมื่อผู้นำสองประเทศเปิดศึกวาทะรุนแรงต่อกัน จนรัฐบาลรัสเซียและรัฐบาลจีนต้องขอร้องให้ระงับยับยั้งก่อนสถานการณ์จะบานปลายมากไปกว่านี้
- ก่อนหน้านี้ สำนักธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกาตรวจพบแรงสั่นสะเทือนขนาด 3.5 แม็กนิจูด มีจุดศูนย์กลางห่างราว 20 ก.ม. จากฐานทดสอบนิวเคลียร์เกาหลีเหนือที่หมู่บ้านพุงกเยรี ในเขตคิลจู จังหวัดฮัมกย็องเหนือ ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวแห่งชาติของจีน (ซีอีเอ็นซี) ตั้งข้อสงสัยว่าแรงสั่นสะเทือนดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากการระเบิด แต่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้ เชื่อว่าเป็นแผ่นดินไหวทางธรรมชาติ
- ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – ข่าวสด https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_525726
![]()
