แฉ! เจ้าอาวาสวัดดังเมืองเชียงใหม่ เป็นพม่า สวมบัตรคนตาย

อดีต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเวียงแหง หอบเอกสารเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ และกอ.รมน.เชียงใหม่ขอให้ตรวจสอบ 2 เจ้าอาวาสวัดใหญ่เมืองเชียงใหม่ พบมีพิรุธในการใช้ทะเบียนราษฎร์ปลอม สวมสิทธิ์บัตรประชาชนคนตายมานานหลายสิบปี สืบค้นต้นตออาจจะเป็นชาวพม่าที่เข้ามาสวมบัตรคนไทยหลายรอบ หากข้อมูลจริงถึงขั้นสะเทือนวงการสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ และวงการศาสนา

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.60 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.บุญเลิศ เมตตารักษ์ อดีต ผกก.สภ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข นำหลักฐานเป็นเอกสารภาพถ่าย เดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับ 2 เจ้าอาวาสวัดดังในตัวเมืองเชียงใหม่ และเจ้าอาวาสวัดใหญ่ทางตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด


ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ได้มีการตรวจสอบข้อมูลของเอกสารทางราชการเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์ แต่พบว่าเจ้าอาวาสวัดใหญ่ในตัวเมืองเชียงใหม่แห่งนี้ มีการใช้บัตรประชาชนที่มีหมายเลขบัตรประชาชน ไปตรงกับบัตรประชาชนของเด็กชายดวงดี เวียงดินดำ ซึ่งได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งเมื่อช่วงประมาณปี พ.ศ.2538 ซึ่งประวัติเดิมเป็นชาวบ้านหนองดินดำ ต.บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ แต่พบว่าพ่อแม่ซึ่งสมัยนั้นบ้านอยู่ห่างไกลไม่ได้ไปแจ้งตาย

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมาทางฝ่ายทะเบียนราษฎร์ ได้รับรองการตายและออกใบมรณะบัตรให้ แล้ว ทั้งนี้พบว่าเลขบัตรไปตรงกับบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าอาวาสรายนี้ ทำให้มีการสืบค้นต่อไปอีกจนพบพิรุธว่ามีการเปลี่ยนชื่อของเจ้าอาวาส และเมื่อประมาณปี พ.ศ.2528 มีการใช้ชื่อบัตรประชาชน และเลขบัตรของอีกบุคคลหนึ่งซึ่งไม่ตรงกับปัจจุบัน (ชื่อนายนิมิต ขอสงวนนามสกุล เป็นชาวอำเภอแม่อาย)

และเมื่อสืบค้นไปก่อนหน้านี้อีกยังพบข้อมูลที่น่าตกใจว่า ได้ใช้อีกชื่อหนึ่ง ซึ่งมีทั้งบิดา และมารดาเป็นชาวพม่าด้วย ทำให้เกิดข้อสงสัยในความไม่ชอบมาพากล รวมทั้งเจ้าอาวาสวัดใหญ่อีกแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอทางตอนบนของเชียงใหม่ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนไทยพม่า ซึ่งเป็นพระอุปัชชา และสนิทสนมกัน เป็นการส่วนตัว และยังเป็นส่วนผลักดันให้ได้สมณะศักดิ์ ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงได้รวมรวมหลักฐานเข้าร้องกับทาง ศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ และ กอ.รมน.เชียงใหม่ ให้ตรวจสอบและดำเนินคดี กับพระทั้ง 2 รูป 
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นหากพบว่าหลักฐาน และข้อมูลต่างๆ ที่นำมาร้องเรียนเป็นความจริงจะถือว่าเป็นเป็นการสั่นสะเทือนวงกาสงฆ์เชียงใหม่ และวงการศาสนาอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันพบว่า คณะสงฆ์ ในเชียงใหม่มีการแบ่งกลุ่มแบ่งสายกันอย่างชัดเจน และบางครั้งก็เกิดข้อขัดแย้งในการแต่งตั้งหรือดำรงตำแหน่งหลายๆ อย่าง ตั้งแต่เจ้าอาวาสวัดไปจนถึงคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่

 

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก – เชียงใหม่นิวส์   http://www.chiangmainews.co.th/page/archives/635783

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *