3 สาวไทยสุดยอดกวาดรางวัลเรียบ“วรินทร” ผงาดแชมป์อิลิมิเนเตอร์  “เสธ.หมึก” พอใจผลงานนักปั่นไทย

3 สาวไทยสุดยอดกวาดรางวัลเรียบ“วรินทร” ผงาดแชมป์อิลิมิเนเตอร์  “เสธ.หมึก” พอใจผลงานนักปั่นไทย

 “วรินทร” ผงาดคว้าแชมป์ครอสคันทรี่ อิลิมิเนเตอร์ ในรุ่นประชาชนหญิง โดยมี “ศุกภักษร” และ “นาตาลี” ได้อันดับ 2-3 ตามลำดับ ส่วนประชาชนชาย “กีรติ” ได้เหรียญเงิน “พูนศิริ” ได้อันดับ 3 ขณะที่ “เมธาสิทธิ์” ล้มคว่ำในรอบรองชนะเลิศ ด้าน “พลเอกเดชา” พอใจผลงานนักปั่นไทย เผยสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีงานตลอดทั้งปี พร้อมขอบคุณพี่น้องชาวไทยที่เป็นกำลังใจด้วยดีมาตลอด

 การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 26 และการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 12 ที่ตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 5 ก.พ. เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย ที่บริเวณดอยม่อนกระถาง มีชิงชัย 2 เหรียญทองจากประเภทครอสคันทรี่ อิลิมิเนชั่น ชาย และหญิง โดยมี “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ร่วมให้กำลังใจนักกีฬา

 ในช่วงเช้าก่อนที่จะมีการแข่งขันครอสคันทรี่ อิลิมิเนชั่น เป็นการแข่งขันแข่งขัน E-เมาเท่นไบค์ หรือ จักรยานไฟฟ้าครอสคันทรี่ ซึ่งเป็นกีฬาสาธิต และมีแข่งขันเป็นครั้งแรกของทวีปเอเชีย โดยมีนักกีฬา 5 คน จาก 4 ชาติร่วมแข่งขัน ปั่นกัน 4 รอบสนาม รอบละ 4.8 กม. รวมระยะทาง 19.2 กม. ผลปรากฏว่า อันดับ 1 เป็นของนักปั่นไทย อส.ทพ.ปาริวัฒน์ ตั๋นเหล็ก ด้วยเวลา 43.13 นาที, ที่ 2 ปิแอร์ อีฟ แคทรี่ จากกัมพูชา เวลา 43.13 นาที, ที่ 3 จอร์จ การ์เซีย จากสเปน เวลา 47.09 นาที

 ส่วนการแข่งขันครอสคันทรี่ อิลิมิเนเตอร์ ใช้สนามระยะทาง 800 เมตร โดยรอบคัดเลือกจะปล่อยตัวทีละคนตาม UCI Ranking ห่างกันคนละ 30 วินาที เพื่อมาจัดอันดับตามเวลาที่นักกีฬาแต่ละคนทำได้ หลังจากนั้นเอาเวลาจากรอบคัดเลือกมาจัดเป็นฮีต (Heat) ในการแข่งขันรอบถัดไป ฮีตละ 4 คน ในแต่ละฮีตจะคัดเอานักกีฬาอันดับ 1-2 เข้ารอบต่อไป อีก 2 คนคัดออก แข่งขันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงรอบ Small Final (รอบจัดอันดับ 5-8) และรอบ Big Final (รอบชิงชนะเลิศ 1-4)

 รายการแรกเป็นครอสคันทรี่ อิลิมิเนเตอร์ รุ่นประชาชนชาย มีนักกีฬาทั้งหมด 31 คน จาก 10 ชาติ ซึ่งในส่วนของนักกีฬาไทย มีจำนวน 4 คน ประกอบด้วย “โดด” สิบเอก กีรติ สุขประสาท เจ้าของเหรียญทองครอสคันทรี่ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์, “โตมร” นายพูนศิริ ศิริมงคล รวมทั้ง “ซูเปอร์เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ แชมป์เอเชียประเภทดาวน์ฮิล 2 สมัยซ้อน และ “แสน” นายสืบสกุล สุขจรรยา เจ้าของเหรียญทองแดงดาวน์ฮิลชิงแชมป์เอเชียหมาด ๆ โดยรุ่นประชาชนชาย รอบแรกจะแข่งขัน 8 ฮีต แต่จะมี 1 ฮีตที่มีนักกีฬา 3 คน

 ในรอบแรก แข่งขันฮีตละ 4 คน ผลปรากฏว่า นักปั่นไทยทั้ง 4 คน ได้แก่ เมธาสิทธิ์, กีรติ, พูนศิริ และ สืบสกุล ต่างเข้าเป็นอันดับ 1 ผ่านเข้าสู่รอบสองทุกคน ซึ่งในรอบสองมี 4 ฮีต ฮีตละ 4 คน โดยในฮีตแรก เมธาสิทธิ์ ลงแข่งกับ กีรติ และนักปั่นคาซัคสถาน อีก 2 คน หลังจากปล่อยตัวนักปั่นคาซัคสถานแย่งไลน์ออกมาก่อน แต่ เมธาสิทธิ์ แซงแล้วฉีกหนีออกมานำห่าง ขณะที่ กีรติ อยู่รั้งท้าย แต่ช่วง 100 เมตรสุดท้าย รถของนักปั่นคาซัคสถานคนแรกมีปัญหา ต้องวิ่งจูงรถเข้าเส้นชัยแต่ไปบังไลน์ของเพื่อนร่วมทีมอีกคน ทำให้ กีรติ เร่งเครื่อง แซงรวบทีเดียว 2 คน ส่งผลให้ กีรติ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 โดยมี เมธาสิทธิ์ เข้าเป็นอันดับ 1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทั้งคู่ ขณะที่ พูนศิริ เข้าที่ 1 และ สืบสกุล เข้าที่ 2 นักปั่นไทยจึงทะยานเข้ารอบรองชนะเลิศครบทั้ง 4 คน

 รอบรองชนะเลิศ ฮีตแรก เมธาสิทธิ์ กับ กีรติ ลงชิงชัยกับ เซนัล ฟานินี่ รองแชมป์เก่าปีที่แล้วจากอินโดนีเซีย และ ริยาร์ด ฮาคีม บิน ลุคมาน แชมป์เก่าจากสิงคโปร์ เกมการแข่งขันนักปั่นอินโดนีเซียนำม้วนเดียวจบ โดยมี กีรติ เข้าเป็นอันดับ 2 ขณะที่ เมธาสิทธิ์ เกิดอุบัติเหตุสไลด์หลุดโค้งไปชนกับนักปั่นสิงคโปร์ ตกรอบทั้งคู่ ต้องไปแข่งจัดอันดับ 5-8 ส่วนฮีตที่สอง พูนศิริ เข้าที่ 2 โดยมี เช็ง ชาน เชียง จากไต้หวันเข้าที่ 1 ขณะที่ สืบสกุล ตกรอบ

 เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ หรือ Big Final มีนักปั่น 4 คน ได้แก่ กีรติ, พูนศิริ เช็ง ชาน เชียง จากไต้หวัน และ เซนัล ฟานินี่ จากอินโดนีเซีย ผลปรากฏว่า เซนัล ฟานินี่ ไม่ทิ้งลายรองแชมป์เก่า คว้าแชมป์ไปครองสำเร็จ โดยมี กีรติ ได้อันดับ 2 และ พูนศิริ ได้อันดับที่ 3 ซึ่งเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันของเจ้าตัว

 ด้าน รุ่นประชาชนหญิง มีนักกีฬา 14 คน จาก 7 ชาติ โดยนักกีฬาไทย มี 4 คน ได้แก่ “ไก่” สิบโทหญิง ศุภักษร นันตะนะ, “พลอย” น.ส.วรินทร เพ็ชรประพันธ์, น.ส.นาตาลี ปัญญาวัน แชมป์เอเชียหมาด ๆ ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หญิง และ “แอน” น.ส.สุรัตติยา บุบผา เจ้าของเหรียญทองแดงชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง ในรอบแรก แข่งขัน 4 ฮีต ซึ่ง 4 นักปั่นสาวผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศกันทุกคน

 รอบรองชนะเลิศ ฮีตแรก วรินทร กับ ศุภักษร ลงชิงชัยร่วมกับนักปั่นคาซัคสถาน และไต้หวัน หลังจากปล่อยตัวจากจุดสตาร์ต นักปั่นคาซัคสถานออกนำก่อน แต่สุดท้ายก็โดย 2 สาวไทยแซงได้ โดย วรินทร เข้าที่ 1 และ ศุภักษร เข้าที่ 2 ส่วนฮีตที่สอง นาตาลี กับ สุรัตติยา แข่งกับนักปั่นไต้หวัน และอิหร่าน หลังจากปล่อยตัว ยา ยู ไซ นักปั่นไต้หวันพุ่งออกนำก่อน แต่ว่า นาตาลี มาฮึดสู้ได้ช่วงกลางทางเข้าเส้นชัยคนแรก ตามมาด้วยไต้หวันและ อิหนร่าน ส่วนสุรัตติยา อันดับสุดท้าย

 ในรอบชิงชนะเลิศ หรือ Big Final มีนักปั่น 4 คน ได้แก่ วรินทร, นาตาลี, ศุภักษร และ ยา ยู ไซ จากไต้หวัน ซึ่งช่วงแรกสาวไต้หวันออกตัวแรงนำมาเป็นคนแรก แต่โดน 3 สาวไทย ค่อย ๆ ไล่แซงทีละคนจนตกไปอยู่อันดับสุดท้าย ผลปรากฏว่า “พลอย” วรินทร เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 คว้าแชมป์เอเชียไปครอง ตามมาด้วย ศุภักษร ที่ได้อันดับ 2 และ นาตาลี ได้อันดับ 3 สาวไทยทำผลงานสุดยอดกวาดไปทั้ง 3 รางวัล สรุปทัพนักปั่นเสือภูเขาทำไปได้ทั้งหมด 5 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง

 หลังการแข่งขัน “พลอย” วรินทร ถึงกับนร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจมาก เพราะช่วงที่ผ่านมาตนเองร่างกายไม่ฟิต มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่รบกวน หลังจบซีเกมส์ก็ยังซ้อมได้ไม่เต็มร้อย เพิ่งมาซ้อมได้เต็มที่ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ แต่ก่อนลงแข่งขันก็หวังอยู่ลึก ๆ ว่าน่าจะได้รางวัลใดรางวัลหนึ่ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้แชมป์ ซึ่งครั้งเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ของตนเอง หลังจากเคยได้มาแล้วเมื่อปี 2016 ที่ จ.ชัยนาท ตนขอขอบคุณกองเชียร์ชาวไทยที่คอยให้กำลังใจ รวมทั้ง

ขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยาฯ ที่ให้การสนับสนุนตนด้วยดีมาตลอด

 ด้าน พลเอกเดชา กล่าวว่า ผลงานวันนี้น่าพอใจมาก แต่เสียดายที่ เมธาสิทธิ์ ไปพลาดเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งข้อเสียของเขาคือความใจร้อน อาจเป็นเพราะมุ่งมั่นมาก ก็เป็นสิ่งที่ต้องแกไขกันต่อไป นอกจากนี้เราก็เจอทั้งแชมป์เก่าและรองแชปม์เก่า แต่ก็ยอมรับว่านักปั่นไทยหัวใจสู้เกินร้อยกันทุกคน ส่วนภาพรวมของการแข่งขันนับว่าประสบความสำเร็จด้วยดี ต้องขอขอบคุณ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, พล.ต.สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37, พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, นางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน, นายสุทิน กับปะหะ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าวเปลือก และชาวเชียงรายทุกคนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนได้รับคำชมจากทุกประเทศ รวมทั้งได้รับการชื่นชมจากผู้แทนฝ่ายเทคนิค ทั้งของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) และ สมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี)

 นายกสมาคมกีฬาจักรยาน กล่าวอีกว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ มีงานตลอดทั้งปี ช่วงนี้ทีมประเภทถนนก็เดินทางไปแข่งขันทัวร์ เดอ ลังกาวี 2020 ที่มาเลเซีย ทีมบีเอ็มเอ็กซ์ก็ไปแข่งที่ออสเตรเลีย นอกจากนี้ประเทศไทยก็จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ รายการ “The Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Cup Tour of Thailand 2020” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ระหว่างวันที่ 1-10 เม.ย. นี้ จะเห็นได้ว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ ทำงานกันไม่หยุดหย่อน เพราะเรามีกำลังใจจากพี่น้องปราะชาชนชาวไทย ขอสัญญาว่าเราจะทำงานกันต่อไป และทำให้ดีที่สุด ตามเจตนารมณ์ในการบริหารงานที่ว่า “มุ่งมั่นพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ และต่อยอดไปสู่กีฬาอาชีพ” เราจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย

 ในพิธีมอบเหรียญรางวัล พลเอกเดชา ได้มอบเงินรางวัลพิเศษให้แก่นักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลทุกคน โดยผู้ที่ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท, อันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท, อันดับ 3 ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท สรุปยอดรวมที่นักกีฬาครอสคันทรี่ อิลิมิเนเตอร์ ได้รับไปทั้งหมด 150,000 บาท.

แหล่งข่าวจาก – วีระเทพ จตุรภัทร สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย

บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์  /////////////   รายงาน  ////////////////////

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *