พ่อไม่ยอมเผาศพ ลูกชายวัย 15 ถูกตำรวจยิงตายวันลอยกระทง

(17 พ.ย.) นายประเสริฐ อายุ 60 ปี และนางกัลยากร อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา ชาว ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมญาติได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่ น้องคิง บุตรชายอายุ 15 ปี ถูกดาบตำรวจสมชาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเมือง ใช้อาวุธปืนประจำกายขนาด 9 มม. ยิงเข้าบริเวณกลางหลังทะลุหน้าอกเสียชีวิต บริเวณข้างปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งถนนสายคูเมือง – พุทไธสง อ.คูเมือง ในคืนวันลอยกระทง (14 พ.ย.59) ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และครูซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ในวันเกิดเหตุ พร้อมยืนยันจะไม่เผาศพลูกชายจนกว่าจะดำเนินคดีกับตำรวจ และครูที่ร่วมกันก่อเหตุให้ถึงที่สุด พร้อมเรียกร้องให้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนด้วย เพราะเกรงจะมาข่มขู่พยานหรือยุ่งกับพยานหลักฐาน

ขณะที่น้องปลื้ม อายุ 15 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตที่โดนคมกระสุนปืนของดาบตำรวจ บริเวณกลางหลังได้รับบาดเจ็บก็มาไหว้ศพเพื่อนด้วยความอาลัย พร้อมเล่าเหตุการณ์คืนเกิดเหตุให้ฟังด้วย ก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 14 พ.ย. ตนพร้อมนายคิง ผู้เสียชีวิต และ ด.ช.แฟ้ม อายุ 14 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานซ้อนกัน 3 คน ไปงานศพเพื่อนที่บ้านหนองหว้าในตำบลเดียวกัน หลังเสร็จจากงานศพก็พาขับขี่รถจักรยานกับกลุ่มเพื่อนประมาณ 30 คน รถจักรยานยนต์ 15 คัน ไปเที่ยวงานลอยกระทง
ระหว่างทางได้มีกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้านมาดักทำร้ายจนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทย์กัน บริเวณหน้าทางหมู่บ้านหนองหว้า จากนั้นดาบตำรวจสมชายซึ่งบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นเหตุการณ์ จึงได้มาไล่กลุ่มวัยรุ่นที่ทะเลาะวิวาทย์จึงได้แยกย้ายกัน

จากนั้นตนกับเพื่อนก็ขับ จยย.ซ้อน 3 โดยมี ด.ช.แฟ้มเป็นคนขับตนนั่งกลาง ส่วนนายคิงนั่งด้านหลัง เข้ามาในซอยข้างปั้มน้ำมันโดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครขับรถตามหลังมาหรือไม่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จึงได้พากันขับรถออกจากปั้มน้ำมันโดยไม่รู้ว่าเพื่อนถูกยิงเสียชีวิต และกระสุนได้ทะลุมาถูกด้านหลังตนเอง ได้รับบาดเจ็บด้วย น้องปลื้ม ยังได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับเพื่อนด้วยว่า ตนกับเพื่อนไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กลับมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้องที่ตำรวจจะมายิงเยาวชนแบบนี้ พร้อมยืนยันจะไปให้การกับพนักงานสอบสวน เพื่อเรียกความเป็นธรรมให้กับเพื่อนที่เสียชีวิต

ขณะที่นายประเสริฐ ระเบียบรัมย์ ผู้เป็นพ่อกล่าวทั้งน้ำตาว่า จะไม่ยอมเผาศพลูกชายจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม หรือมีการดำเนินคดีกับตำรวจ และครูตามกฎหมายจนถึงที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับที่ตนเองต้องสูญเสียลูกชายทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด มองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะตำรวจเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่กลับมาทำกับเยาวชนแบบนี้จึงอยากเรียกร้องให้ดำเนินคดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ล่าสุดทราบว่าดาบตำรวจสมชาย และครู ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ในคืนเกิดเหตุได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.คูเมือง แล้ว เบื้องต้นได้ถูกแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ซึ่งล่าสุดได้ถูกส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก  สนุ๊กนิวส์  http://news.sanook.com/2103418/

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *