ป.ป.ส.นำจับ หนุ่มสาวลำพูน-หนุ่มพม่า-ไทใหญ่ รวม 4 คน ขนไอซ์-ยาเค 240 กก. ชายแดนเชียงแสน
ภัยความมั่นคงหนักต่อเนื่อง ติดปีกให้นกต่อเข้ามาค้ายาเสพติด กลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา-สปป.ลาว เข้ามาสวมบัตรหัว 0 ( หรือผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน – หรือต่างด้าว บางส่วนที่เข้ามาอยู่ใหม่ไม่มีประวัติอยู่จริงสร้างปัญหาภัยความมั่นคงเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดที่เชื่อโยงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน – ชื้อที่ดินปลูกบ้านเรือนใหญ่โตอู้ฟ่า แล้วรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างไร
วันนี้ ( 24 ธ.ค.68 ) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พ.ต.ท.นริช สอนดิษฐ ผอ.ปปส.ภ.5 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก,ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดภาคเหนือ (นบ.ยส.35) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.5 และ ภ.จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ด่านศุลกากรเชียงแสน ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 4 คน คือนายสาคร อายุ 54 ปี และ น.ส.ประภัสสร อายุ 33 ปี ทั้งคู่เป็นชาว อ.ป่าซาง จ.ลำพูน นายไซ วุน อายุ 34 ปี ชาว จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และนายไซ เซา ติ๊บ อายุ 21 ปี ชาวไทใหญ่ อาศัยอยู่ที่เมืองเชียงตุง ประเทศเมียนมา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากวันที่ 23 ธ.ค.68 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.สังกัด ปป.2 ได้รับแจ้งว่าจะมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก สีขาว ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ ขึ้นไปลักลอบขนยาเสพติดที่ชายแดนด้าน จ.เชียงราย จึงได้ออกติดตามกระทั่งพบรถคันดังกล่าวขับไปตามถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย โดยเข้าไปพักที่บ้านหลังหนึ่งพื้นที่หมู่ 9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จากนั้นได้ขับออกมาโดยเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนเป็นของประเทศเมียนมา หมายเลข 7J 3104 และขับข้ามแดนไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
บ่ายวันเดียวกันได้ขับกลับมาฝั่งไทยและขับเข้าไปในบ้านหลังเดิมเพื่อเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็น จ.เชียงใหม่ เหมือนเดิม โดยมีคนขับขี่รถจักรยานยนต์คอยขับนำ จากนั้นได้ขับไปตามถนนสายแม่สาย-เชียงแสน มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงแสน โดยมีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีทอง ป้ายทะเบียน จ.เชียงใหม่ ไม่ทราบทิศทางการมาเข้ามาขับตามและสลับขึ้นนำเป็นครั้งคราว เมื่อถึงพื้นที่หมู่ 1 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ได้แวะเข้าไปบ้านหลังหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าไปปิดล้อมตรวจค้นก็พบผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ภายในและพบที่ห้องเก็บของชั้นล่างของบ้านรวมทั้งที่ช่องลับที่ท้ายกระบะรถคันแรกซุกซ่อนยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 120 ก้อน และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) จำนวน 120 กิโลกรัม จึงได้จับกุมทั้งหมดเอาไว้
ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตั้งข้อหาว่า “ร่วมกันหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ” และ “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมจะได้ขยายผลหากลุ่มเครือข่ายชาติพันธุ์ที่ถือบัตรหัว 0 ( หรือผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน – ต่างด้าว ที่ฝั่งตัวเข้ามาอยู่ในพื้นที่ชายแดน อ.แม่สาย อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สนับสนุนและร่วมขบวนค้ายาเสพติด หน่วยงานความมั่นคงชายแดน… เงียบกริบ.. ไม่รายงานตามความเป็นจริง.. นี่คือผลประโยชน์ชายแดนประเทศไทย…
ภาพข่าว – ข่าวพันะมิตรเชียงราย
บก.เจี๊ยบแม่สายนิวส์ออนไลน์ /// รายงาน ////
