คุม 3 สาวแก๊งเปรี้ยวหั่นศพ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 7 จุด ทั้งรีสอร์ตที่นำไปหั่นศพ จุดที่ไปรับแอ๋มมาทำร้ายจนเสียชีวิต รวมถึงจุดซื้ออุปกรณ์การหั่น และสถานที่ทิ้งเลื่อย ไปจนถึงจุดฝังศพ ท่ามกลางประชาชนมามุงดูพร้อมสาปแช่งด่าทอ จากนั้นพาทั้ง 3 ไปขอขมายายและน้าของน้องแอ๋ม ยันเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ครอบครัวอโหสิให้ จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวฝากขังศาล แต่ไม่มีใครมายื่นประกันตัว ส่งตัวนอนเรือนจำกลางขอนแก่น ด้านบิ๊กตร. สั่งตั้งกรรมการสอบภาพ-คลิปผู้ต้องหาหลุด พร้อมสั่งห้ามถ่ายภาพแล้ว แต่ยังแจงท่าทีตำรวจทำเพื่อให้ผู้ต้องหาผ่อนคลายให้ความร่วมมือกับตำรวจ (คลิปข่าว!! เปิดแช็ตไลน์!! ใครหั่นศพบ้าง หลักฐานยัน‘เบนซ์’ไม่ได้ฆ่า-สลดลูก5ขวบถูกรุมด่าลูกฆาตกร)
จากกรณีที่น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” อายุ 24 ปี น.ส.กวิตา ราชดา อายุ 25 ปี หรือ “เอิร์น” และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี หรือ “แจ้” 3 ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม ที่ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เข้ามอบตัวกับตำรวจเมียนมา ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ก่อนส่งตัวให้ตม.ไทยคุมตัวนั่งเครื่องบินมายังกทม.เพื่อให้ผบ.ตร.สอบสวนด้วยตัวเอง แล้วจึงคุมทั้ง 3 กลับไปยังพื้นที่สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ตามที่ข่าวสดนำเสนออย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 00.15 น.วันที่ 5 มิ.ย. ที่สภ.เขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ. เขาสวนกวาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภฤกษณ์ สุวรรณราษฎร์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เขาสวนกวาง นำทีมพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีฆ่าหั่นศพ ภายในห้องปฏิบัติการงานสอบสวน ชั้น 1 สภ.เขาสวนกวาง โดยเบิกตัวผู้ต้องหาครั้งละ 1 คน จากห้องคุมขังชั้น 2 เข้ารับการสอบปากคำโดยเริ่มจาก น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว ตามด้วย น.ส.กวิตา หรือเอิร์น และ น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ โดยห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสื่อมวลชนเข้ามาภายในพื้นที่สอบสวนเด็ดขาด
พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า การสอบสวนได้แยกสอบปากคำทีละคน เพื่อให้สำนวนรัดกุมและละเอียดที่สุด โดยตลอดทั้งคืนวันนี้ถึงช่วงเช้าคาดว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ และพร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 7 จุดในช่วงตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว เพื่อตรวจสอบตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์
ขณะที่นางสาคร ภาษี แม่ของน้องเปรี้ยว พร้อมครอบครัว ยังคงปักหลักนอนรออยู่ที่บริเวณชั้น 1 ของ สภ.เขาสวนกวาง เพื่อหวังพบหน้าลูกสาว แต่เนื่องจากขณะนี้เลยกำหนดเวลาเยี่ยม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่อนุญาต
ต่อมาเมื่อเวลา 08.50 น. ที่ บช.ภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.ประชุมร่วมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม โดยพล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผบช.ภ.4 กล่าวว่า สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเสร็จหมดแล้ว ในช่วงบ่ายจะขออำนาจศาลฝากขัง โดยในชั้นพนักงานยังคงคัดค้านประกันตัว ผู้ต้องหาทั้งหมด
เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ คุมตัว น.ส.ปรียานุช น.ส.กวิตา และน.ส.อภิวันท์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ที่มารักษาความปลอดภัยในจุดที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้ง 7 จุด ขณะที่ประชาชนจำนวนมากก็มามุงดู พร้อมตะโกนสาปแช่งและด่าทอผู้ต้องหาด้วยถ้อยคำที่ หยาบคาย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องคุมพื้นที่ไว้ในวงกว้างเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้การทำแผน เริ่มต้นด้วย 1.รีสอร์ต ที่บ้านหัวถนน ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น จุดที่ผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันชำแหละศพน้องแอ๋ม ตั้งแต่ช่วงขับรถซีอาร์วี มาจอดภายในลานจอดรถของห้องพักเอ 1 แล้วอุ้มศพน้องแอ๋มเข้าไปภายในห้องพัก เพื่อเลื่อยหั่นศพออกเป็น 2 ท่อน และตัดแขนซ้าย แล้วนำศพใส่ไว้ในถุงพลาสติกดำและยัดใส่ถังอีกชั้น จากนั้นนำศพมาใส่ท้ายรถซีอาร์วี 2.ร้านสะดวกซื้อชื่อดัง บริเวณสี่แยกตลาดโนนทัน ติดกับโรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน จุดที่ น.ส.เปรี้ยวลงไปซื้อถุงพลาสติกสีดำเพียงคนเดียว 3.ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งห่างจากร้านสะดวกซื้อประมาณ 500 เมตร จุดที่ นายวศิน นามพรหม บอกว่าไปซื้อเลื่อย แต่น.ส.เปรี้ยวระบุว่าซื้อแค่ปูนซีเมนต์ 4. ร้านจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง ตรงข้าม ร.ร.เทศบาลบ้านโนนทัน ห่างจากจุดที่ 3 ประมาณ 800 เมตร จุดนี้ทั้ง 3 ลงมาเลือกซื้อเลื่อยและอุปกรณ์ต่างๆ
5.ริมถนนเหล่านาดีตัดกับถนนหน้าเมือง บริเวณปากทาง ซ.หน้าเมือง 3/1จุดที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมารับ น.ส.แอ๋ม 6.เส้นทางจากอ.เมืองไปอ.เขาสวนกวาง อยู่ในพื้นที่อ.น้ำพอง ข.ขอนแก่น ที่เอาเลื่อยหั่นศพไปทิ้ง และหาที่ฝังศพ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังหาเลื่อยไม่พบ และ 7.ภายในป่าสาธารณะข้างทาง บ.โนนสง่า ม.9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จุดที่ผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันขุดหลุม และนำศพของน้อง แอ๋มที่ถูกชำแหละใส่ถังไว้แล้วนำไปฝังดินทิ้งไว้เพื่ออำพรางคดี
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า กำชับแนวทางการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีดังกล่าวที่จะต้องรัดกุมทุกขั้นตอน วันนี้จะต้องส่งสำนวนการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้แล้วเสร็จและฝากขังต่อศาล จ.ขอนแก่น ให้ทันในเวลา 16.30 น. ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุก ข้อกล่าวหา แม้จะให้การขัดกัน แต่แนวทางการสอบสวนยังคงเป็นไปตามขั้นตอน
หลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ที่ห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา สภ.เขาสวนกวาง ก่อนจะนำตัวส่งฝากขังที่ ศาล จ.ขอนแก่นก่อนเวลาปิดทำการศาลในเวลา 16.30 น. ขณะที่พ่อและแม่ของน้องแอ๋ม จะเดินทางมาพบกับ ผู้ต้องหาในช่วงค่ำ
เมื่อเวลา 13.30 น. หลังสิ้นสุดการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ควบคุมตัว น.ส.ปรียานุช น.ส.กวิตา และน.ส.อภิวันท์ เข้าขอขมากับครอบครัวผู้ตาย ซึ่งนั่งรออยู่ห่างจากจุดที่พบศพน้องแอ๋ม ประมาณ 10 เมตร
โดยนางสำราญ เพลียแก่น ยายของน้อง แอ๋ม และ น.ส.สกุณตรา เพลียแก่น น้าสาวของน้องแอ๋ม รวมทั้งครอบครัวและเครือญาติของน้องแอ๋มนั่งอยู่บนเสื่อ จากนั้นเจ้าหน้าที่ถอดกุญแจมือผู้ต้องหาทั้งหมด และให้นั่งลงหน้าครอบครัวของผู้ตาย ก่อนที่ผู้ต้องหาจะยกมือไหว้และก้มกราบครอบครัวของผู้ตาย โดยร้องไห้ตลอดเวลา
เมื่อทั้ง 3 กราบขอขมาญาติ น.ส.ปรียานุช กล่าวขอโทษกับครอบครัวของน้องแอ๋ม บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ถ้าตั้งใจคงหนีไปแล้ว พร้อมกับพูดคุยกับญาตินิดหน่อยและยกมือไหว้อีกครั้ง
น.ส.สกุณตรากล่าวว่าขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตายด้วย เพราะเปรี้ยวบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ฆ่าตายไปแล้ว ตอนนี้ครอบครัวไม่มีความสุขสักเท่าไร อยากให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมในคดีที่เกิดขึ้น และหลังจากนี้ก็จะเดินสายทำบุญให้แอ๋ม ครอบครัวอโหสิกรรมให้กับผู้ต้องหา เพราะคนตายก็ตายไปแล้ว แต่ขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น ก็นำทั้ง 3 ไปฝากขัง โดยศาลอนุญาต และไม่มีใครมายื่นประกันตัว เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งขังที่เรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น
ที่อาคารมาลีนนท์ ในการบันทึกเทปรายการโหนกระแส นายสมชาย คำเพลิงใจ และนางพัชชาภา กลิ่นจุ้ย บิดาและมารดาของ น.ส.วริศรา หรือน้องแอ๋ม มาออกรายการ โดยนางพัชชาภากล่าวว่า ส่วนตนไม่อโหสิกรรมให้ เพราะเขาเป็นลูก เขาเป็นเลือดเนื้อของเรา เขาเป็นดวงใจของเรา เราจะไปให้อภัยง่ายๆ ไม่ได้จริงๆ สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่
เมื่อถามถึงกระแสที่บอกว่าแอ๋มเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย นายสมชายกล่าวว่า แฟนแอ๋มโดนจับเรื่องยาเสพติด เรื่องนี้มีประเด็นตั้งแต่ปี 2559 แฟนเก่าเขาโดนจับ แต่แอ๋มถูกปล่อยตัวมา เขาก็มาเล่าให้แม่เขาฟัง เขาให้การเป็นผลกับตำรวจและก็ตรวจฉี่แอ๋มแต่ไม่เจอ ไม่มียาเสพติดในร่างกาย
ทั้งนี้เชื่อว่าประเด็นโกรธแค้นน่าจะเป็นเรื่องที่แอ๋มไปให้ข้อมูลกับตำรวจ จนแฟนของเปรี้ยวถูกจับ แต่ไม่น่าเกี่ยวกับเงิน 3 หมื่นบาทที่กล่าวอ้าง เพราะถ้าลูกไม่มีเงินก็โอนให้ใช้ตลอด ไม่มีทางที่จะติดหนี้ขนาดนั้น
ต่อมาเวลา 18.30 น. พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง เข้าตรวจสอบเลื่อย หลังจากที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา โดยตรวจพบที่ บ.หนองหานจาง ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ตามคำให้การของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย ผู้ต้องหาคนสำคัญของคดี ว่าได้ทิ้งเลื่อยธนูที่ใช้เป็นเครื่องมือหั่นศพน้องแอ๋ม ออกเป็น 2 ท่อน
พ.ต.อ.ออมสินกล่าวว่า ผู้ต้องหาระบุในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ 6 ว่าทิ้งเลื่อยลงในสระน้ำ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันตรวจสอบงมหาในหนองน้ำสาธารณะของหมู่บ้าน ซึ่งก็พบเลื่อยธนูจริงตามที่ผู้ต้องหาให้การ โดยเลื่อยยังมีพลาสติกใสหุ้มอยู่ในสภาพซื้อใหม่ ส่วนคันเลื่อยมีสีส้ม เปรอะไปด้วยโคลน ใบเลื่อยเกิดคราบสนิม เนื่องจากอยู่ภายในหนองน้ำ”
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีภาพและคลิปของผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพออกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ว่า สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพเก่า หรือใหม่ โดยต้นสังกัดได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนในระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหาของตำรวจ
เบื้องต้นเชื่อว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจะต้องมีจิตวิทยาเพื่อผ่อนคลายที่จะทำให้ผู้ต้องหาเปิดเผยข้อมูล เช่น ผู้ต้องหามีการรับสารภาพเพิ่มเติมว่ามีผู้ต้องหาชายอีก 1 คนที่ร่วมในการฆ่าหั่นศพด้วย อีกทั้งคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ร้ายแรงและตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 3-4 ข้อกล่าวหา ขอให้มั่นใจว่าตำรวจไม่เลือกปฏิบัติกับผู้ต้องหารายใดเป็นพิเศษ
พล.ต.อ.เดชณรงค์กล่าวอีกว่า ไม่จำเป็นต้องกำชับ เรื่องการควบคุมตัวผู้ต้องหา หรือ การนำผู้ต้องหามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพราะตำรวจทุกคนรู้ระเบียบขั้นตอน และวิธีปฏิบัติ ให้เป็นไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี
ด้านพล.ต.อ.กวี สุภานันท์ ที่ปรึกษา (สบ10) กำชับในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ทุกหน่วย แจ้งข้าราชการตำรวจในสังกัดทุกนายทราบ ให้ พึงระมัดระวัง หรือไม่กระทำการใดๆ เช่น การถ่ายภาพ วิดีโอ เผยแพร่ แชร์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดี แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นเข้าสู่สื่อสังคมออนไลน์หรือส่งต่อให้บุคคลอื่น เนื่องจากมีกรณีการกระทำในลักษณะดังกล่าว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของข้าราชการตำรวจทางสื่อสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก ว่าเป็นการกระทำทีไม่สมควร ไม่เหมาะสม จึงขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายพึงระลึกไว้เสมอว่า การทำงานของข้าราชการตำรวจต้องมีความเป็นกลาง มีจิตสำนึกว่าการกระทำใดๆ จะสร้างความเสียหายให้กับองค์กร หน่วยงาน ตนเองหรือไม่
ขอขอบคุณแหล่งข่าว จากข่าวสด https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_383366
![]()

