โดยพวกตนไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนและไม่เคยเซ็นต์ชื่อกู้เงิน กยศ. หรือค้ำประกันมาก่อนเลย อยู่ๆ มีหมายศาลมาที่บ้านว่าพวกตนได้กู้เงิน กยศ. แต่ไม่ชำระ โดนกองทุนเพื่อการศึกษา (กยศ.) เจ้าของเงินฟ้องศาลให้ชำระเงินคืนแก่ กองทุน (กยศ.) โดยผ่านมาตั้ง 7-8 ปีแล้วและพวกตนไม่เคยเซ็นต์ชื่อกู้เงินหรือค้ำประกันใครเลย พวกตนไม่รู้เรื่องเลย
โดยศาลนัดพวกตนก็ไปศาล โดยศาลคดีแพ่งจะนัดตัดสินพวกตนในวันที่ 20 พ.ย. 59 นี้ พวกตนจึงพากันไปร้องศูนย์ดำรงธรรม (ศูนย์ยุติธรรม จ อุดรธานี) และ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม พร้อม จนท. และทนายจะเดินทางมาพบพวกตนที่ สภ.น้ำโสม เวลา 10.30 น. เพื่อให้พวกตนแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโรงเรียนที่ปลอมแปลงลายมือชื่อของพวกตนไปเบิกเงินทำให้พวกตนเป็นหนี้ถูกฟ้องศาลในครั้งนี้ โดยทาง พ.ต.อ. อาลักษณ์ เจริญธนกุล ผกก. อำนวยความสะดวกให้ชาวบ้าน
โดยจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ร้อยเวร) จำนวน 5 คนรับแจ้งความชุดละ 5 คน ผู้เสียหายชุดแรกที่เข้าแจ้งความ ประกอบ 1. น.ส. อรทัย ทุมณี อายุ 32 ปี เป็นหนี้ในสัญญา จำนวน 46,000 บาท 2. นางพิมภาดา ชาวดร อายุ 49 ปี จำนวนหนี้ ในสัญญา 42,000 บาท 3. นาง นัยนา ใจแสน อายุ 37 ปี หนี้ 120,000 บาท 4. นายสมศีร รูปโสม อายุ 70 ปี หนี้ 460,00บาท 5. นายสุริยา ศีรมงคล อายุ 39 ปี หนี้ 88,000บาท 6. น.ส. นัทธ์หทัย ขุนด่านซ้าย อายุ 59 ปี เป็นหนี้ 41,600 บาท 7. นายรหัส กองศูนย์ อายุ 39 ปี เป็นหนี้ 92,000 บาท 8. นายรุ้งเดช กุสสา อายุ 43 ปี เป็นหนี้ 46,000 บาท 9. นายเทพเหรียญชัย ภิญโญ อายุ 39 ปี เป็นหนี้ 46,000 บาท 10. นายครรชิต บุดดีคำ อายุ 42 ปี เป็นหนี้ 90,000 บาท 11. นายพลวัฒน์ พรมมาลา 38 ปี เป็นหนี้ 46,000บาท 12. นายชุติวัต ทองไสย เป็นหนี้ 46,000 บาท 13. นางสาว สุกัญญา พิมพ์ดา อายุ 32 ปี เป็นหนี้ 48,000 บาท เข้าแจ้งความในชุดแรก
โดยให้การว่าหนี้พวกตนไม่ได้ยืมและไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนเป็นการปลอมแปลงลายมือชื่อพวกตนและเจ้าของโรงเรียนไปเบิกเงินเอาเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรับแจ้งในข้อกล่าวว่าปลอมแปลงลายมือชื่อในเบื้องต้น ทางด้าน พ.ต.อ. อาลักษณ์ เจริญธนกุล ผกก. กล่าวว่าคดีนี้ตนได้สั่งการให้สอบสวนลายมือชื่อ ลายเซ็นต์ผู้กู้ในหนังสือสัญญาตัวจริงกับเจ้าของเงินก่อนและอีกอย่างคดีนี้มาแจ้งความ 2 รอบแล้ว และอยู่ในขบวนการยุติธรรมแล้ว
คือศาลแขวงและทางศาลจะพิจารณาตัดสินคดีในวันนัดของศาล คือวันที่ 20 พ.ย. 59 นี้ และอีกอย่างผู้ถูกกล่าวหาเจ้าของโรงเรียนดังกล่าวได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว และได้ขายกิจการโรงเรียนให้บุคคลอื่นไปหลายปีแล้ว หากจะดำเนินคดีกับผู้เสียชีวิตแล้วนั้นไม่สามารถทำได้แต่จะทำการสอบสวนว่านอกจากผู้ตายแล้วมีใครเกี่ยวข้องหรือไม่และจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ต่อไป
ข้อมูลภาพ/ข่าว
วรเชษฐ ธรรมเขต
แหล่งข่าวจาก ข่าวชัดประเด็นจริง http://www.khaochad.com/53359/?r=1&width=1600